HPE ยกระดับความเร็วระบบบริหารจัดการเครือข่ายขับเคลื่อนอัตโนมัติ ด้วยนวัตกรรม Agentic AI ใหม่จาก Mist

HPE AI Agentic

กลุ่มผลิตภัณฑ์ HPE Juniper Networking ช่วยลดความซับซ้อนของการปฏิบัติงาน IT และยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ ด้วยการดำเนินการที่เป็นแบบอัตโนมัติมากยิ่งขึ้น ผ่านเวิร์กโฟลว์แบบ Agentic AI และการสร้างแบบจำลองประสบการณ์ทางดิจิทัลที่มีความครอบคลุมและสมจริงยิ่งกว่าเดิม

HPE (NYSE: HPE) ประกาศเปิดตัวนวัตกรรมหลักในกลุ่มผลิตภัณฑ์ HPE Juniper Networking โดยยกระดับแพลตฟอร์ม Mist ที่ขับเคลื่อนด้วย AI-native เพื่อส่งมอบ AIOps แบบเอเจนต์ ผ่านการปฏิบัติการทางเครือข่ายที่ชาญฉลาด มีความเป็นอัตโนมัติ และสามารถทำงานได้อย่างเชิงรุกมากยิ่งขึ้น การปรับปรุงฟังก์ชันใหม่นี้ประกอบด้วยการแก้ไขปัญหาด้วย Agentic AI การขยายการติดตามการเคลื่อนไหวของข้อมูล (Visibility) และการควบคุมการปฏิบัติงานแบบอัตโนมัติ รวมถึง Large Experience Model (LEM) ในรูปแบบทั่วไป และฟีเจอร์ AIOps ใหม่สำหรับศูนย์ข้อมูล ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อลดความซับซ้อนด้าน IT และเพื่อรับประกันประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีเยี่ยมตั้งแต่อุปกรณ์ต้นทางจนถึงการเชื่อมต่อกับคลาวด์ (Client to Cloud)

ฟังก์ชันการใช้งานใหม่ ๆ เหล่านี้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับ GreenLake Intelligence ซึ่งเป็นแนวทางที่ล้ำสมัยของ HPE สำหรับระบบ IT อัตโนมัติ และ AIOps แบบเอเจนต์ ซึ่งจะใช้งานเอเจนต์ AI แบบเฉพาะภายในสถาปัตยกรรม IT แบบหลายชั้น ซึ่งช่วยให้สามารถแก้ปัญหาได้แบบเรียลไทม์ เพิ่มประสิทธิภาพในเชิงรุก และช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดมากยิ่งขึ้นทั้งในส่วนของระบบเครือข่าย พื้นที่จัดเก็บ และการประมวลผล ความสามารถของ Agentic AI ภายใน Juniper Mist ช่วยเปลี่ยนการจัดการด้าน IT จากเชิงรับให้เป็นเชิงรุก ซึ่งเป็นการวางรากฐานที่ดีในการปรับปรุงประสิทธิภาพและประสิทธิผลของระบบให้ดียิ่งขึ้น 

“เครือข่ายในทุกวันนี้ต้องทำได้มากกว่าแค่การเชื่อมต่อ เพราะเครือข่ายต้องมีความเข้าใจ ปรับตัวและลงมือปฏิบัตรได้จริง ด้วยฟังก์ชันด้านการจำลองประสบการณ์ทางดิจิทัลและฟังก์ชัน Agentic AI รุ่นใหม่ใน Juniper Mist เราได้ยกระดับเครือข่ายให้กลายเป็นพันธมิตรเชิงรุกในด้าน IT ที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ ถือเป็นการพัฒนาแบบก้าวกระโดดไปสู่การบริหารระบบแบบโดยอัตโนมัติอย่างแท้จริง ซึ่งจะช่วยลูกค้าของเราในการลดความซับซ้อน ลดต้นทุน และช่วยให้พวกเขาส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัลที่ยอดเยี่ยมในเครือข่ายที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก” รามิ ราฮิม รองประธานบริหาร, ประธานและผู้จัดการทั่วไปของ HPE Networking กล่าว

Agentic AI

Agentic AI: ยกระดับการบริหารจัดการแบบอัตโนมัติแบบอัจฉริยะ

HPE Juniper Networking เป็นผู้นำในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การบริหารจัดการระบบแบบอัตโนมัติสำหรับคลาวด์และ AI ตลอดระยะกว่าทศวรรษที่ผ่านมา โดยมุ่งเน้นเจาะจงไปที่การรับประกันประสบการณ์ของผู้ใช้ที่ราบรื่นตั้งแต่อุปกรณ์ต้นทางจนถึงการเชื่อมต่อกับคลาวด์ (Client to Cloud) โดย Marvis AI จะทำหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลระยะไกลครอบคลุมทั้งระบบแบบใช้สาย, ไร้สาย, WAN และศูนย์ข้อมูล พร้อมสร้างเวิร์กโฟลว์อัตโนมัติเพื่อลดความซับซ้อนในการปฏิบัติงานและช่วยลดต้นทุน ฟังก์ชันที่สนับสนุนระบบด้วย AI ยังนำข้อมูลรายการงานปัญหามาใช้ในการฝึกและเพิ่มประสิทธิภาพของเอนจิน Marvis AI อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ โมเดลที่ขับเคลื่อนด้วย API แบบ 100% ยังสามารถทำงานร่วมกับระบบและแอปพลิเคชันภายนอก เช่น Zoom, Teams และ ServiceNow เพื่อระบุและแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุได้อย่างรวดเร็ว

Marvis AI

นวัตกรรมใหม่ล่าสุดของแพลตฟอร์ม Mist ต่อยอดมาจากองค์ประกอบพื้นฐานหลักสำหรับ Agentic AI เพื่อนำเสนอข้อมูลเชิงลึกและการรับประกันประสิทธิภาพการทำงานที่เป็นอัตโนมัติมากยิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้าและพาร์ทเนอร์:
  • ความสามารถในการสนทนาที่ดียิ่งขึ้น ผู้ช่วย Marvis AI ได้เสริมความสามารถในการสนทนา ซึ่งเอื้อต่อการแก้ไขปัญหาแบบเรียลไทม์ โดยอาศัยเฟรมเวิร์ก Agentic AI ทำให้สามารถมอบข้อมูลเชิงลึกที่ปรับแต่งได้ ผ่านเอเจนต์อัตโนมัติที่ทำงานร่วมกันครอบคลุมทั้งระบบเครือข่ายแบบมีสาย ไร้สาย WAN ไคลเอนต์ และแอปพลิเคชัน
  • การปฏิบัติงานแบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น ขณะนี้แดชบอร์ด Marvis Actions รองรับการแก้ไขปัญหาเครือข่ายในรูปแบบเป็นอัตโนมัติได้มากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าพอร์ตที่ไม่ถูกต้อง ปัญหาความจุของระบบ หรือฮาร์ดแวร์ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน โดยยังคงอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของทีมไอทีอย่างเต็มรูปแบบ
  • Large Experience Model (LEM) รุ่นทั่วไป LEM คือโมเดล AI เฉพาะของ HPE Juniper Networking ที่วิเคราะห์ข้อมูลหลายพันล้านจุดจากแอปพลิเคชันอย่าง Zoom และ Teams เพื่อแก้ปัญหาประสิทธิภาพของเครื่องมือในการทำงานร่วมกันโดยทั่วไปได้อย่างง่ายดาย รวมถึงคาดการณ์ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ และเมื่อเสริมประสิทธิภาพด้วยการจำลองระบบ Marvis Minis ที่จำลองประสบการณ์ผู้ใช้ ทำให้ LEM สามารถคาดการณ์ประสบการณ์การใช้งานแอปพลิเคชันในอนาคตได้โดยไม่ต้องอาศัยข้อมูลแบบเรียลไทม์จากแอปพลิเคชันนั้น ๆ ข้อมูลนี้จะถูกป้อนเข้าสู่เครื่องมือ Marvis AI ซึ่งสามารถดำเนินการแบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในอนาคตได้ก่อนที่จะมีผู้ใช้จริง
  • AI สำหรับการปฏิบัติงานของศูนย์ข้อมูล Marvis AI Assistant สำหรับศูนย์ข้อมูลผสานการทำงานกับฐานข้อมูลกราฟตามบริบทของ Apstra เพื่อส่งมอบข้อมูลเชิงลึกที่ชาญฉลาดและวางรากฐานสำหรับการจัดเตรียมบริการอัตโนมัติ Marvis Minis ยังถูกขยายการใช้งานไปยังศูนย์ข้อมูลเพื่อช่วยการตรวจสอบความถูกต้องของการให้บริการอย่างต่อเนื่อง และรับประกันประสิทธิภาพการทำงานของแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายศูนย์ข้อมูล

HPE อยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นในการปลดล็อกคุณค่าที่เหนือระดับให้แก่ลูกค้า ด้วยการประยุกต์ใช้ AIOps และ Agentic AI ครอบคลุมระบบแบบครบวงจร (full stack) จากผู้ให้บริการหลายราย โดยผสานการทำงานเข้ากับผลลัพธ์จากเครือข่าย การประมวลผล การจัดเก็บข้อมูล การจำลองเสมือน การทำงานแบบคอนเทนเนอร์ (containerization) และแอปพลิเคชัน

ฟังก์ชันล่าสุดของศูนย์ข้อมูล Marvis ยังช่วยเสริมความครอบคลุมของ HPE OpsRamp ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการจัดการการปฏิบัติงานด้านไอที (ITOM) ที่ใช้ AIOps ซึ่งออกแบบมาเพื่อลดความซับซ้อนและเสริมระบบอัตโนมัติให้กับการจัดการสภาพแวดล้อม IT แบบไฮบริด ประเภทมัลติคลาวด์ที่ติดตั้งภายในสถานที่ด้วยความสามารถในการตรวจสอบ วิเคราะห์และแก้ไขปัญหา (Observability) แบบครบวงจร และเวิร์กโฟลว์ Agentic AI  ขั้นสูงที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะสำหรับศูนย์ข้อมูลสมัยใหม่

บ็อบ ลาลิเบอร์เต นักวิเคราะห์หลักจาก theCUBE Research กล่าวว่า “ทุกวันนี้เครือข่ายนั้นมีการกระจายตัวและซับซ้อนมากกว่าที่เคยเป็นมา แต่องค์กรกว่า 93%[1] ยืนยันว่าเครือข่ายเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จทางธุรกิจ ทีมปฏิบัติการจึงจำเป็นต้องมีเครื่องมือที่ช่วยเร่งกระบวนการแก้ปัญหา เพิ่มประสิทธิภาพ และรับประกันประสบการณ์ของผู้ใช้ในระบบที่มีผู้ใช้จำนวนมาก เป็นเวลากว่าทศวรรษแล้วที่โซลูชัน HPE Juniper Networking ได้บุกเบิกการใช้ AI ในการปฏิบัติงานเครือข่าย และช่วยเร่งกระบวนการไปสู่เครือข่ายที่เป็นอัตโนมัติ อีกทั้ง ด้วยความก้าวหน้าด้าน Agentic AI and GenAI ล่าสุดที่ขับเคลื่อนโดย Marvis ยังช่วยทำให้ HPE สามารถนำเสนอความสามารถแบบอัตโนมัติที่แท้จริง ซึ่งช่วยให้ดำเนินการแก้ปัญหาในเชิงคาดการณ์ได้ และช่วยให้ฝ่ายปฏิบัติการสามารถแก้ไขปัญหาได้ก่อนที่ผู้ใช้จะสังเกตเห็น”

นวัตกรรมเหล่านี้ต่อยอดมาจากความเป็นผู้นำด้าน AI ในระบบเครือข่ายของ HPE ที่มีมาอย่างยาวนานกว่าทศวรรษ ซึ่งได้ช่วยให้องค์กร ผู้ให้บริการระบบคลาวด์ และบริษัทโทรคมนาคม สามารถยกระดับประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ และความพึงพอใจของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี

สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมอีเวนต์ออนไลน์ของ HPE ในหัวข้อ New Era of Secure AI-Native Networking ในวันที่ 16 กันยายน 2568 เพื่อมาร่วมสำรวจความก้าวหน้าอันล้ำสมัยในด้าน AIOps และ Agentic AI และมาเรียนรู้วิธีการที่ HPE ขับเคลื่อนอนาคตของเครือข่ายที่ใช้ AI ด้วยแนวทางล้ำสมัยแบบรวมศูนย์

แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง:
Previous Post Next Post