Nothing เปิดตัว Nothing Phone (3) ไลฟสไตล์โฟนรุ่นใหม่ เพิ่ม Glyph Matrixs และปุ่ม Essential ใหม่ กับขุมพลังตัวคุ้มของระดับกลาง Snapdragon 8s Gen 4

Nothing Phone (3)

Nothing เปิดตัวสมาร์ทโฟน Nothing Phone (3) ไลฟสไตล์โฟน number series รุ่นที่ 3 จาก Nothing ที่ห่างหายไปตั้งแต่ปี 2023 โดยการกลับมาครั้งนี้พร้อมยกระดับประสบการณ์การใช้งานให้ใกล้เคียงความเป็นเรือธงมากขึ้นให้อยู่ในสมาร์ทโฟนระดับกลางอีกครั้ง ด้วยขุมพลัง Snapdragon 8 Series และกล้องหลังระดับโปรในการถ่ายภาพ พร้อมการเปลี่ยนดีไซน์ด้านหลังแบบใหม่ที่แตกต่างมากยิ่งขึ้น



Nothing Phone (3) ยกระดับ Glyph Interface ใหม่ ที่เรียกว่า Glyph Matrix สามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระในการแสดงผลมากกว่าที่เคยมีมาผ่าน ไฟ micro-LED 489 ดวง พร้อมแสดงสถานะการแจ้งเตือน หรือใช้เป็นตัวนับเวลาในการถ่ายภาพก็ยังได้ บนตัวเครื่องที่สามารถกันน้ำกันฝุ่นในระดับ IP68 มีสีสันให้เลือกคือสีขาวและสีดำ


ในส่วนของหน้าจอมาพร้อมกับขอบจอที่บางลงจากรุ่นก่อนหน้า 18% พร้อมยกระดับประสบการณ์การจับถือใช้งานได้คล่องตัวมากขึ้นผ่านหน้าจอขนาด AMOELD 10-Bit 6.67" ความละเอียด 1,260 x 2,800 px รีเฟรชเรต 120Hz และอัตราการตอบสนองการสัมผัส 1,000 Hz พร้อมช่วยถนอมสายตา PWM Dimming 2,160 Hz กับความสว่างหน้าจอสูงสุด 4,500 nits ทั้งหมดนี้ถูกครอบทับด้วยกระจกที่ทนทาน Gorilla Glass 7i 

สำหรับกระจกหลังเลือกใช้ Gorilla Glass เช่นกันแต่ไม่มีการระบุประเภทที่นำมาใช้ และเฟรมเครื่องเลือกใช้เป็นอลูมิเนียมที่ทนทาน 


Nothing Phone (3) ยกระดับการถ่ายภาพด้วยกล้องความละเอียด 50MP ทุกเลยน์ไม่ว่าจะเป็นกล้องหน้าหรือกล้องหลัง โดยจะมีระยะเลนส์การถ่ายภาพกล้องหลังเลนส์หลัก 50MP f1.68 ขนาดเซนเซอร์ 1/1.3" มีกันสั่น OIS และ EIS พร้อมระยะการซูมแบบไม่เสียรายละเอียดที่ความละเอียด 2เท่า และกล้องซูม Periscope 50MP f/2.2 ขนาดเซนเซอร์ 1/2.75" ระยะซูม 3เท่า และใช้เทคนิคซูมในเซนเซอร์ได้ไกลสูงสุด 6เท่า พร้อมซูมดิจิตอลได้ไกลสุดที่ 60 เท่า และกล้องหลังเลนส์สุดท้ายอัลตร้าไวด์ 50MP f/2.2 ขนาดเซนเซอร์ 1/2.76" มุมมองความกว้าง 114 องศา และกล้องหน้า 50MP f/2.2 ขนาดเซนเซอร์ 1/2.76" มุมมองความกว้าง 81.2 องศา พร้องรองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 60fps และ Full HD 240fps 


อีกความสามารถใหม่ของ Nothing Phone (3) ที่เพิ่มความสะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้นไปอีกขั้นกับปุ่ม Essential ปุ่มลัดที่สามารถใช้งานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ หรือใช้ในการบันทึกหน้าจอก็ตาม พร้อมฟีเจอร์ Essential Space ผู้ช่วยอัจฉริยะที่ผสานการทำงานที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น


ทั้งหมดนี้จะถูกประมวลผลผ่านขุมพลัง Snapdragon 8s Gen 4 พร้อมมอบประสิทธิภาพที่ดีขึ้นจากรุ่นเดิมด้าน CPU ดีขึ้น 36% GPU ดีขึ้น 88% และ AI ดีขึ้น 60% เมื่อเทียบกับ Nothing Phone (2) ในปี 2023 นอกจากนี้ Nothing Phone (3) มาพร้อมกับแรมภายใน 12GB และ 16GB LPDDR5X สามารถสร้างแรมเสมือนเพิ่มให้มีแรมใช้งานมากสุด 24GB ผ่านเนื้อที่ภายใน 256GB และ 512GB UFS4.0 ทำงานบนระบบปฏิบัติการณ์ Android 15 ครอบทับด้วย Nothing OS 3.5 พร้อมรองรับการอัพเดท OS นาน 5 ปี และความปลอดภัยนาน 7 ปี 

และแบตเตอรี่ของ Nothing Phone (3) มาพร้อมกับแบตเตอรี่ Si/C 5,150 mAh รองรับการชาร์จไว 65W และรองรับการชาร์จไร้สาย 15W สามารถชาร์จไร้สายให้อุปกรณ์อื่นได้ 5W และแบบสายได้ 7.5W รองรับระบบชาร์จ PPS / PD3.0 / PD2.0 / QC4.0 / QC3.0 / QC2.0 / DCP / SDP / CDP / UFCS

ใหม่กว่า เก่ากว่า