เจาะเบื้องหลังฮาร์ดแวร์สุดล้ำ Galaxy S21 Series 5G พบกับ 4 หัวใจหลักของนวัตกรรมสมาร์ทโฟนแฟลกชิปรุ่นล่าสุดจาก Samsung


 สมาร์ทโฟนเปรียบเสมือนคอมพิวเตอร์ที่เกิดจากการทำงานของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ร่วมกัน โดยหลากหลายฟีเจอร์อันยอดเยี่ยมในปัจจุบัน จะไม่สามารถทำงานได้เลยหากไม่มีฮาร์ดแวร์ที่ดีคอยทำงานอยู่เบื้องหลัง โดยเฉพาะในปัจจุบันไลฟ์สไตล์ของคนเปลี่ยนไป พวกเขาต้องการสมาร์ทโฟนที่มีกล้องที่ดี มากกว่าที่เคย ดังนั้น ฮาร์ดแวร์ของสมาร์ทโฟนจึงต้องพัฒนาให้ก้าวล้ำตามไปด้วย ซึ่ง Galaxy S21 Series 5G คือสมาร์ทโฟนแฟลกชิปรุ่นล่าสุดของซัมซุง ที่มาพร้อมกับหลากหลายนวัตกรรมฮาร์ดแวร์ใหม่ ซึ่งทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้เป็นสมาร์ทโฟนแห่งยุคที่ตอบโจทย์สาย ทำคอนเทนต์” อย่างแท้จริง
 


Exynos 2100 ชิปเซ็ตอันทรงพลัง ขุมกำลังของสมาร์ทโฟนอันล้ำสมัย


ชิปเซ็ตเปรียบเสมือนหัวใจของสมาร์ทโฟน ยิ่งสมาร์ทโฟนมีนวัตกรรมและฟีเจอร์ที่โดดเด่นมากเท่าไหร่ ยิ่งต้องมีชิปเซ็ตที่ดีเพื่อทำให้ทุกอย่างทำงานร่วมกันได้อย่างไหลลื่นเท่านั้น ซึ่งชิปเซ็ตไม่ได้เป็นเพียงแต่ขุมพลังให้กับสมาร์ทโฟน แต่ยังทำหน้าที่บริหารจัดการแบตเตอรี่ รวมถึงการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอันมีค่าตั้งแต่ระดับฮาร์ดแวร์อีกด้วย โดย Exynos 2100 ใน Galaxy S21 Series 5G คือหน่วยประมวลผล 5nm ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่เร็วที่สุดใน Galaxy ที่ถูกพัฒนามาเพื่อรองรับการทำงานของสมาร์ทโฟนที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับคนยุคนี้โดยเฉพาะ ด้วยหน่วยประมวลผล (CPU) ที่มอบประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้นจากเดิม 30% การ์ดจอ (GPU – Graphics Processing Unit) ที่เพิ่มการประมวลผลกราฟฟิกมากกว่าเดิม 40% AI ที่เร็วกว่าเดิม เท่า รวมถึงการใช้พลังงานแบตเตอรี่ที่น้อยลงกว่าเดิมถึง 20% 



ดังนั้น ผู้ใช้จึงสามารถทำในสิ่งที่พวกเขาชื่นชอบได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น การถ่ายภาพหรือวิดีโอคุณภาพสูงระดับ 4K/8K การใช้ฟีเจอร์ที่ทำงานจากกล้องหลายเลนส์พร้อมกัน อย่างในโหมด Director’s View การเล่นเกมที่อัดแน่นไปด้วยภาพกราฟฟิกแบบมาราธอน หรือการสตรีมภาพยนตร์หรือซีรีส์ผ่านเครือข่ายความเร็วสูงแบบ 5G โดยไม่ต้องกังวลอีกต่อไป




RAW File 12-bit มาตรฐาน D.S.L.R เพื่อการปรับแต่งภาพอย่างมืออาชีพ คมชัด ไม่เสียรายละเอียด 


ภาพส่วนใหญ่ที่เราถ่ายและเห็นจากกล้องสมาร์ทโฟนนั้น ส่วนใหญ่คือภาพจากไฟล์ JPEG ซึ่งถือเป็นไฟล์ภาพมาตรฐานที่มีสีสันสดใส พร้อมใช้งานได้ในทันที โดยไม่ต้องแต่งภาพเพิ่ม หรืออาจจะแต่งเพิ่มได้เล็กน้อย เนื่องจากข้อจำกัดของไฟล์ที่ถูกบีบอัดให้มีขนาดเล็ก ทำให้หากแต่งภาพมากเกินไป ภาพอาจจะแตกหรือเสียรายละเอียดได้ง่าย ดังนั้น สำหรับคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพแบบมืออาชีพ และต้องการแต่งภาพเพื่อเพิ่มความสวยงามและความคมชัดของเฉดสีมากยิ่งขึ้น ไฟล์ที่เหมาะที่สุด คือ RAW File ซึ่งเป็นข้อมูลดิบที่มาจากการบันทึกภาพผ่านเซนเซอร์โดยตรง จึงมีคุณภาพที่สูงเต็มประสิทธิภาพของกล้อง โดย Galaxy S21 Ultra 5G มาพร้อมกับการบันทึกไฟล์ Raw 12-bit มาตรฐาน D.S.L.R ซึ่งดีที่สุดที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟน มีเฉดสีถึง 68,000 ล้านสี ทำให้ปรับจูนสีผ่านโปรแกรมแต่งภาพยอดนิยม อย่าง Lightroom หรือ VSCO ได้ยืดหยุ่นกว่า ทั้งในด้านค่าความสว่างโดยรวมของภาพ (Exposure) การปรับส่วนมืดหรือส่วนสว่างพร้อมกัน (Contrast) การปรับค่าเงา (Shadows) หรือการปรับเฉพาะส่วนที่สว่างของภาพ (Highlights) โดยที่สีไม่เพี้ยน ซึ่งการแต่งภาพสามารถทำได้เลยบนสมาร์ทโฟน ไม่ต้องทำในคอมพิวเตอร์ให้ยุ่งยากอีกต่อไป


วิดีโอ สีสวย คมชัดทุกสภาพแสง ด้วย HDR10+


HDR (High Dynamic Range) คือเทคนิคการประมวลผลภาพ เพื่อให้ภาพสามารถแสดงของเขตของสีได้มากขึ้น โดยจะแสดงสีดำได้มืดสนิทกว่าเดิม และสีขาวได้สว่างจ้ากว่าเดิม พร้อมช่วยปรับภาพมืดและสว่างให้มีคอนทราสต์ที่ดีขึ้นโดยอัตโนมัติ โดย Galaxy S21 Ultra 5G ได้ยกระดับภาพวิดีโอขึ้นไปอีกขั้น ด้วย HDR10+ ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีด้านภาพที่ดีที่สุดในปัจจุบัน รวมถึงยังมี Dynamic Range สูงสุดในสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ตามมาตรฐาน HDR ทำให้มอบเฉดสีที่กว้างกว่า พร้อมปรับความสว่างแบบเฟรมต่อเฟรม ทำให้ภาพสวยงามขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ด้วย HDR10+ เป็นมาตรฐานวิดีโอที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ไฟล์ที่ได้จึงสามารถนำไปใช้งานต่อได้ทันที ไม่ว่าจะนำไปขึ้นยังหน้าจอทีวี หน้าจอคอมพิวเตอร์ หรืออัพโหลดขึ้นบน YouTube ได้เลยโดยไม่ต้องปรับแต่งสีใหม่ 

 

Galaxy S21 Series 5เปิดพรีออเดอร์เพื่อให้เป็นเจ้าของได้แล้วตั้งแต่วันนี้ – 28 มกราคม 2564 ในราคาเริ่มต้นที่ 9,900 บาท เมื่อจองผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.samsung.com/th/s21ultra


ใหม่กว่า เก่ากว่า