เคล็ดลับง่ายๆ เพื่อยืดอายุการใช้งานเครื่องซักผ้าให้ยาวนาน

 

 เครื่องซักผ้าเป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ถูกใช้งานอย่างเป็นประจำเฉลี่ยอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง การใช้งานโดยไม่ระมัดระวังหรือไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องซักผ้าเสื่อมสภาพและมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่าที่ควร นอกจากนี้ ปัญหาที่พบบ่อยจากการไม่ดูแลรักษาความสะอาดเครื่องซักผ้าคือการก่อตัวของเชื้อราและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ที่อาจนำมาซึ่งโรคภัยไข้เจ็บ แอลจีซึ่งมีความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณชีวิตของผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้น ตามสโลแกน “Life’s Good” จึงได้รวบรวมเคล็ดลับในการยืดอายุการใช้งานเครื่องซักผ้าที่ผู้บริโภคสามารถทำตามได้ง่ายๆ เพื่อป้องกันการเสียเวลาและค่าใช้จ่ายจากการส่งซ่อมโดยไม่จำเป็น พร้อมรักษาสุขอนามัยและสุขภาพของสมาชิกภายในครอบครัวไปพร้อมๆ กัน



  1. ซักผ้าในปริมาณที่เหมาะกับความจุของถังซัก ตรวจสอบคำแนะนำเกี่ยวกับปริมาณเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับความจุของถังซักต่อการซักผ้าหนึ่งครั้งจากคู่มือการใช้งาน หากใส่เสื้อผ้าในปริมาณที่มากเกินไป จะทำให้การทำงานของเครื่องซักผ้าเสียสมดุลและเสื่อมสภาพเร็วขึ้
  2. ไม่ควรซักผ้าติดต่อกันเกินกว่า 2 ครั้งต่อวัน เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องซักผ้าทำงานหนักจนเกินไป แต่หากจำเป็นต้องใช้งานเครื่องซักผ้าเกินกว่า 2 ครั้งต่อวัน ควรเว้นระยะเวลาให้เครื่องซักผ้าได้หยุดพักสักครู่ ก่อนการใช้งานในรอบถัดไป
  3. เปิดประตูเครื่องซักผ้าทิ้งไว้หลังจากการซักทุกครั้ง เพื่อให้อากาศสามารถไหลเวียนเข้าไปในถังซักได้สะดวก พร้อมช่วยระบายความชื้นและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ออกไป รวมถึงป้องกันการก่อตัวของเชื้อราที่อาจติดไปกับเสื้อผ้า ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคผิวหนังหลายชนิด เช่น กลาก เกลื้อน
  4. ทำความสะอาดช่องใส่ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มด้วยน้ำอุ่นก่อนการซักในครั้งถัดไป หลังการซักผ้าในแต่ละครั้ง เรามักจะพบกับปัญหาคราบผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ละลายไม่หมดตกค้างอยู่ หากปล่อยไว้นาน ผงซักฟอกจะรวมตัวกับคราบไคลจากเสื้อผ้าและเกิดเป็นเชื้อราได้ จึงควรทำความสะอาดให้หมดจดด้วยการล้างน้ำอุ่น
  5. ทำความสะอาดตัวกรองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อขจัดสิ่งที่สามารถทำให้ตัวกรองระบายน้ำทิ้งเกิดการอุดตันออกไป เช่น เส้นผม ใบเสร็จ หรือเศษเหรียญที่อาจลืมเอาออกจากกระเป๋าเสื้อและกางเกงก่อนนำไปซัก เป็นต้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำออกจากตัวเครื่องได้ดียิ่งขึ้น
  6. ควรล้างถังซักทุก 1-2 เดือน สำหรับเครื่องซักผ้าฝาหน้า และทุก 2 สัปดาห์ สำหรับเครื่องซักผ้าฝาบน เพื่อกำจัดเชื้อโรค คราบผงซักฟอก คราบน้ำยาปรับผ้านุ่ม และสิ่งสกปรกต่างๆ ที่อาจก่อปัญหาติดเป็นคราบอยู่ตามเสื้อผ้าหลังการซักได้ โดยสามารถทำความสะอาดถังซักได้ง่ายๆ ด้วยการเลือกใช้งานโปรแกรม Tub Clean

 

นอกจากนี้ ในปัจจุบันยังมีนวัตกรรมเครื่องซักผ้าใหม่ๆ ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยตอบโจทย์ผู้บริโภคในด้านการเพิ่มความทนทานและการยืดอายุการใช้งานของเครื่องซักผ้าให้ยาวนานยิ่งขึ้น โดยเครื่องซักผ้าแอลจีที่มาพร้อมเทคโนโลยี AI DDTM ที่นอกจากจะโดดเด่นด้วยความล้ำหน้าของเทคโนโลยีมาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลด้านพฤติกรรมการใช้งานผ่านบิ๊กดาต้า เพื่อนำเสนอรูปแบบการหมุนของถังซักที่เหมาะสมที่สุดกับน้ำหนักและเนื้อผ้าแต่ละชนิดแล้ว ยังเพิ่มความทนทานภายนอกด้วยประตูกระจกนิรภัย พร้อมรักษาความสะอาดของถังซักได้ดียิ่งขึ้นด้วยถังซักสแตนเลสที่ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียได้สูงสุด 99 เปอร์เซ็นต์

ใหม่กว่า เก่ากว่า