ในแต่ละวันของเรา สามารถนำ Gadgets เด็ดๆ อะไรใส่เข้าไปเติมให้คุณภาพชีวิตของเราดีขึ้นได้บ้าง ตลอด 24 ชม. ?


เดี๋ยวนี้ถ้าอยากใช้ชีวิตอย่างสบายตัวสบายใจ ขอแค่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์ไอทีติดตัวเอาไว้ แค่นี้ก็ให้ชีวิตคุณสบายขึ้นอีกเยอะ จะไปไหนก็หาลู่ทางได้ง่ายๆ นัดเพื่อนก็แชร์สถานที่ให้หากันเจอได้เลย หรือถ้าเกิดงานเข้าสายฟ้าแลบก็สามารถแวะไปหาที่นั่งปั่นงานให้เสร็จได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องวิ่งเข้าไปถึงออฟฟิศ เรียกได้ว่าชีวิตสมัยนี้เป็นชีวิตไฮเทคของคนรุ่นใหม่ที่ประหนึ่งว่าหลุดออกมาจากหนังไซไฟกันเลยทีเดียว การจะอัพเกรดชีวิตให้ไฮเทคอย่างสมบูรณ์แบบจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ไอทีที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ทุกแบบในชีวิตให้ครบถ้วนซะก่อน วันนี้ เรามาดูไปพร้อมกันดีกว่าว่าในแต่ละวันของเรา สามารถนำแก็ดเจ็ตเด็ดๆ อะไรใส่เข้าไปเติมให้คุณภาพชีวิตของเราดีขึ้นได้ตั้งแต่ตื่นจนกลับบ้านนอน

 


เดินทางตอนเช้าอย่างสุนทรีย์

ตื่นมาตอนเช้า ก่อนจะออกจากห้องก็อย่าลืมเปิดแล็ปท็อปขึ้นมาเช็คอีเมลกันซักนิด หากมีแล็ปท็อปบางเบาคู่ใจซักเครื่องจะเพอร์เฟ็กต์มาก เพราะนอกจากจะบูตเครื่องขึ้นมาเปิดอีเมลได้อย่างรวดเร็วด้วยหน่วยความจำ SSD ยังสามารถพับเครื่องเก็บเป็นโหมด Sleep แล้วหิ้วเข้ากระเป๋าได้เลยเพื่อประหยัดเวลา ออกมาจากห้องแล้ว ระหว่างเดินทางก็อย่าลืมพกหูฟัง Headphone Earbud แบบไร้สายติดตัวไปด้วย แล้วหยิบหูฟังขึ้นมาสวมหูแล้วเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อฟังเพลงเพลินๆ ให้อารมณ์ดีก่อนไปทำงานกันได้เลย ไม่ว่ารถจะติดหรือรถไฟฟ้าจะเบียดก็เริ่มต้นวันด้วยความรู้สึกดีๆ แฮปปี้ตลอดวันได้


ปั่นงานสบายๆ ได้ทุกที่

เดี๋ยวนี้คนรุ่นใหม่ไม่จำเป็นต้องนั่งติดโต๊ะเพื่อเคลียร์งานกันอีกต่อไป เพราะเดี๋ยวนี้ไม่ว่าคุณจะต้องปั่นงานในที่ทำงานหรือออกไปวิ่งงานข้างนอก แค่พกแล็ปท็อปเพียงเครื่องเดียวก็ตอบโจทย์ได้ทุกอย่าง ด้วยน้ำหนักที่เบา สเป็คที่แรง และจอใหญ่กำลังดี (ต้องอย่าลืมดูให้ดีว่ามีเทคโนโลยีป้องกันแสงสีฟ้าด้วยรึเปล่านะ) ทำให้จะวางไว้พิมพ์งานที่โต๊ะ ที่มุมโซนนั่งเล่นริมหน้าต่าง หรือบนโต๊ะของร้านกาแฟในตึกออฟฟิศลูกค้าก็สะดวกไปหมด และหากคุณมีแท็บเล็ตไซส์ประมาณ 10 นิ้ววางไว้ข้างกายอีกซักเครื่องก็จะยิ่งเพอร์เฟ็กต์ เพราะมันจะช่วยให้คุณสามารถหาข้อมูลและพิมพ์งานไปพร้อมกันได้ เนื่องจากฟังก์ชั่นการท่องอินเทอร์เน็ตจากแอปพลิเคชันบนแท็บเล็ตมักจะเหนือชั้นกว่าบนแล็ปท็อปอยู่แล้ว ทำให้คุณเคลียร์งานเสร็จได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องสลับหน้าต่างทำงานไปมาให้ยุ่งยาก

 


ออกกำลังยามเย็นให้เต็มประสิทธิภาพ
นั่งปั่นงานมาทั้งวัน ตกเย็นก็ต้องไปออกกำลังกันหน่อยเพื่อไม่ให้เป็นออฟฟิศซินโดรม ถ้าไม่อยากเบื่อจนหมดแรงออกกำลังต่อหรืออยากทำให้ช่วงเวลาออกกำลังของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น อุปกรณ์ชิ้นแรกที่ขาดไม่ได้คือหูฟังไร้สายที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อสายออกกำลังโดยเฉพาะ เช่น หูฟัง Earbud แบบสปอร์ต (มาตรฐานการกันน้ำระดับ IP56 ขึ้นไป) หรือหูฟังที่มีก้านล็อคกับใบหูและมีห่วงคล้องคอเพื่อให้สวมใส่ได้อย่างทะมัดทะแมง นอกจากนี้นาฬิกาอัจฉริยะ สมาร์ทวอทช์” ก็เป็นอีกหนึ่งผู้ช่วยที่ดีสำหรับการใช้เก็บข้อมูลการออกกำลังเพื่อการจัดสรรกิจกรรมในชีวิตให้เหมาะสม ผู้ใช้ควรเลือกสมาร์ทวอทช์รุ่นที่เหมาะกับสไตล์ออกกำลังของตัวเองด้วย ดูก่อนว่าต้องการแค่ระดับกันน้ำแค่ IP56 เพื่อกันเหงื่อ หรือระดับ IP67 เพื่อกันน้ำสำหรับการว่ายน้ำ รวมทั้งต้องสามารถตั้งค่าให้ตรวจจับปริมาณแคลอรี่ตามกิจกรรมออกกำลังหลักของเราได้ เช่น ชอบวิ่ง ชอบเต้น หรือชอบยกเวท เป็นต้น

 


ชิลๆ กับความบันเทิงก่อนนอนให้หลับฝันดี

หลังจากเหนื่อยมาทั้งวันก็ต้องปิดท้ายด้วยความบันเทิงกันนิดนึง และจะมีอะไรสบายไปกว่าการได้นอนกลิ้งๆ ดูซีรี่ส์ที่ตัวเองกำลังติดอยู่บนเตียงกันอีกล่ะสำหรับใครที่ไม่อยากยุ่งยากมากความก็สามารถหยิบสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตขึ้นมาต่อเน็ต จิ้มดูซีรี่ส์ได้เลยภายใน นาที แต่ถ้าใครที่อยากได้ความคมชัดใหญ่สะใจ เราแนะนำให้หยิบแล็ปท็อปออกมากางดูดีกว่า เพราะถึงอย่างไรจอแล็ปท็อปก็มักจะใหญ่ได้ใจกว่าสมาร์ทดีไวซ์อยู่แล้ว (เสียงลำโพงก็ดังกว่า) เริ่มง่วงเมื่อไหร่แล้วค่อยหยิบหูฟังมาสวม เปิดเพลงสบายๆ กล่อมนอนให้หลับสนิท อ้อ แล้วก็อย่าลืมสวมสมาร์ทวอทช์ที่ข้อมือไว้ด้วยนะ ตื่นมาตอนเช้าจะได้ดูได้ว่าเราหลับเต็มอิ่มหรือเปล่า แถมมันยังใช้เป็นนาฬิกาปลุกที่ดีซะด้วย

 


จะเห็นได้ว่าวิถีชีวิตระดับคุณภาพในยุคนี้นั้นอัดแน่นไปด้วยอุปกรณ์ไอทีสารพัด ซึ่งเครื่องคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปแบบก็ถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์สำคัญที่จะช่วยให้คุณสะดวกสบายขึ้นมาก หากใครยังไม่มีแล็ปท็อปอเนกประสงค์คู่ใจ ลองเหลียวมามอง “HUAWEI MateBook 14” ก็ดีนะ เพราะเครื่องรุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์ทั้งในด้านความเร็ว ความเบา และขนาดหน้าจอ ด้วยฟีเจอร์ “FullView Display” ที่ทำให้มีพื้นที่ขอบจอเพียง 10% จากทั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 14 นิ้ว แสดงผลด้วยความละเอียดระดับ Full HD+ (2160x1440) ที่รองรับเทคโนโลยีป้องกันแสงสีฟ้าจาก TÜV Rheinland ทั้งยังมาพร้อมอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ Solid Sate Drive (SSD) 512 GB  และมีขุมพลังเป็นชิปเซ็ตสุดแรงล่าสุด AMD Ryzen 7 4800H และ Ryzen 5 4600H ที่สำคัญแบตเตอรี่ยังอึดใช้งานทั่วไปได้นานถึง 10 ชั่วโมง และยังมีฟีเจอร์รองรับการชาร์จพลังงานอย่างรวดเร็ว “HUAWEI SuperCharge” มาพร้อมกับเบาบางเพียง 15.9 มม. และมีน้ำหนักแค่ 1.49 กิโลกรัมเท่านั้น แถมยังมาพร้อมการรับประการหลังการขายถึง ปี และการให้บริการซ่อมเครื่องด้วยการรับส่งถึงบ้าน ไปดูรายละเอียดกันได้ที่ https://consumer.huawei.com/th/support/warranty-policy/pc/ ใครถูกใจอยากจัดเอาไว้ซักเครื่องไปดูข้อมูลเพิ่มเติมและซื้อได้ที่ https://shop.huawei.com/th หรือ HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ


ใหม่กว่า เก่ากว่า