ในวันนี้ Qualcomm ได้ทำการเปิดตัว SoC ระดับกลางใหม่ของตนเอง เพื่อเอาใจกับค่านิยมของตลาด ณ ตอนนี้ที่ผู้บริโภคต่างเลือกใช้ระดับกลางเป็นหลักมากกว่า (ถึงแม้ Snapdragon 675, 712 พึ่งเปิดตัวกันไปไม่นานก็ตาม...) จึงทำให้การพัฒนาของ SoC ระดับกลางไม่หยุดหย่อน
มาต่อกันที่ SoC ระดับกลางที่แรงที่สุดของยุคนั้นก็คือ Qualcomm Snapragon 730 และ 730G
ความแตกต่างที่เหมือนเป็นก้าวกระโดดที่ใหญ่ที่สุดของ Qualcomm Snapdragon 710 และ 712 มาเป็น Qualcomm Snapdragon 730-series เลยก็คือ เทคโนโลยีการผลิตที่ถูกทำให้เล็กลงเป็น 8nm (เล็กกว่า Qualcomm Snapdragon 835 และ 845 อีกนะ) บนสถาปัตยกรรมที่ออกแบบเองบน Kyro 470 (จากเดิม 10nm ในรุ่น Snapdragon 710,712 ) พร้อมสมองกลหลัก 2 Cores สำหรับ Arm-CortexA76 2.2 GHz และ 6 Cores สำหรับ Arm-Cortex A55 1.8 GHz และกราฟฟิกชิพใหม่ Adreno 618 ที่ทำให้เจ้า 730 นี้ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าทั้ง Snapdragon 710, 712, 675.
สำหรับการเชื่อมต่อเข้ากับโลกทั้งใบนั้นเลือกใช้ Qualcomm X15LTE แบบเดียวกับที่อยู่ใน Qualcomm Snapdragon 710, และ 712 (Snapdragon 675 นั้นใช้โมเด็ม Qualcom X12LTE และ Qualcomm Snapdragon 835 นั้นใช้โมเด็ม Qualcomm X16LTE)
Qualcomm's 4th-Gen AI Engine ที่ถูกยกระดับให้มีประสิทธิภาพการประมวลผลรวดเร็วขึ้นด้วย Hexagon 688 DSP และ Hexagon Vector eXtensions (HVX) ที่ถูกใช้งานบน Qualcomm Snapdragon 855 เรือธงแห่งปี 2019 ที่ตอนนี้ถูกนำมาใช้บน SoC ระดับกลางของปี 2019 อีกด้วยเช่นกัน
Qualcomm Spectra 350 ISP ใน 700-series รองรับการถ่ายภาพได้สูงสุดถึง 48MP ได้ในหลายๆโหมด และสามารถวัตรระยะชัดตื้นของวัตถุได้แม่นยำขึ้นในการบันทึกวิดีโอ 60fps รวมไปถึงสามารถถ่ายวิดีโอระดับสูงถึง 4K HDR ได้อีกด้วยเช่นกัน ประหยัดพลังงานกว่า Qualcomm Snapdragon 710 ถึง 4เท่า จึงไม่ต้องกลัวเลยว่าเครื่องจะร้อนเร็วตอนถ่ายวิดีโอหรือแบตหมดไวจนเกินไป
และสำหรับสายเกมโดยเฉพาะ Qualcomm Snapdragon 730 ได้มีรุ่นย่อยเฉพาะทางออกมานั้นก็คือ 730G ที่ออกแบบให้มีประสิทธิภาพด้านกราฟฟิกมากกว่าปกติถึง 25% ด้วยฟีเจอร์ใหม่ Snapdragon Elite Gaming สำหรับเกมที่ถูกทำให้เข้ากับ SoC ของ Snapdragon.
ที่มา Qualcomm
