23 กันยายน 2568, ชลบุรี – “Hisense” (ไฮเซ่นส์) ผู้นำด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านระดับโลก เดินหน้าปักหมุดขยายการลงทุนในประเทศไทย มูลค่า 4,700 ล้านบาท จัดตั้ง “นิคมอุตสาหกรรมการผลิตอัจฉริยะ Hisense” ภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี 2 อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เพื่อเป็นฐานการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ประเภทตู้เย็นและเครื่องซักผ้าที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองรับความต้องการของตลาดที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพและขีดความสามารถการแข่งขันให้กับประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลาง CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม)
โดยโครงการนี้ถูกสร้างบนพื้นที่รวมกว่า 400 ไร่ คาดว่าแผนระยะที่ 1 จะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในกลางปี 2569 และสามารถรองรับกำลังการผลิตได้มากกว่า 2,600,000 เครื่องต่อปี การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของ Hisense ในการขยายเครือข่ายการผลิตและกระจายสินค้าให้ครอบคลุมตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
นายโทมัส เทา ผู้จัดการทั่วไป HHA Industrial Park เปิดเผยว่า Hisense ในฐานะหนึ่งในบริษัทจีนรายแรกๆ ที่ก้าวสู่เวทีโลก เริ่มขยายธุรกิจโดยยึดกลยุทธ์มุ่งเน้นตลาดต่างประเทศเป็นแกนหลักอย่างต่อเนื่อง และในปี 2567 บริษัทได้มีการตั้งเป้าหมายใหม่สู่ “การสร้างองค์กรระดับโลกและเป็นแบรนด์ระดับโลก” Hisense จึงเดินหน้ากลยุทธ์ “Local for Local” เพื่อสร้างเครือข่ายครบวงจรผ่านศูนย์ปฏิบัติการ 7 แห่ง ศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) 30 แห่ง และนิคมอุตสาหกรรม 36 แห่งทั่วโลก โดย Hisense เลือกประเทศไทยให้เป็นหนึ่งประเทศยุทธศาสตร์สำคัญสำหรับการลงทุนตั้งฐานการผลิตและเป็นศูนย์กลางการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอาเซียน ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันระดับโลก
Hisense จึงทุ่มงบลงทุน 4,700 ล้านบาท เพื่อก่อสร้าง “นิคมอุตสาหกรรมการผลิตอัจฉริยะ Hisense (Hisense Intelligent Manufacturing Park)” ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี 2 จังหวัดชลบุรี บนพื้นที่รวมกว่า 400 ไร่ พร้อมเดินหน้าพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2568 โดยคาดว่าจะก่อสร้างแผนระยะที่ 1 แล้วเสร็จภายในช่วงครึ่งปีหลัง 2569 ด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการอยู่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งถือเป็นทำเลยุทธศาสตร์ที่สำคัญของประเทศไทย ทั้งด้านการลงทุน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน มีระบบซัพพลายเชนตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ รวมทั้งระบบขนส่งและโลจิสติกส์ที่ครบวงจร ทำให้ Hisense สามารถรองรับความต้องการของตลาดภายในประเทศที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และส่งออกไปยังกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
“ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 (เดือนมกราคม ถึงเดือนมิถุนายน) Hisense ประเทศไทยสามารถสร้างสถิติการเติบโตของยอดจำหน่ายภายประเทศได้อย่างโดดเด่นถึง 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ตู้เย็นที่ขยายตัวอย่างโดดเด่นถึง 27% และเครื่องซักผ้าที่ขยายตัวสูงถึง 61% ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทยและความเชื่อมั่นที่ผู้บริโภคมีต่อคุณภาพ นวัตกรรม และการบริการของแบรนด์ Hisense อย่างต่อเนื่อง จึงนำมาสู่การขยายการลงทุนทุ่มงบประมาณกว่า 4,700 ล้านบาท จัดตั้ง “นิคมอุตสาหกรรมการผลิตอัจฉริยะ Hisense” ภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี 2 อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี”
นิคมอุตสาหกรรมการผลิตอัจฉริยะ Hisense ถูกออกแบบให้เป็นฐานการผลิตแบบครบวงจร ที่มาพร้อมเครื่องจักรอัตโนมัติทันสมัย ควบคู่กระบวนการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูงตามมาตรฐานสากล ซึ่งช่วยยกระดับคุณภาพสินค้าและสร้างความสามารถในการแข่งขันในตลาด โดยแผนระยะที่ 1 (ปี 2568-2569) คาดว่าจะรองรับกำลังการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าได้มากถึง 2,600,000 เครื่องต่อปี
“การดำเนินการขยายการลงทุนของ Hisense ครั้งนี้ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่การใช้พลังงานหมุนเวียน ระบบการจัดการน้ำและของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ ไปจนถึงการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในกระบวนการผลิต เพื่อให้สอดคล้องกับพันธกิจด้าน ESG ของบริษัทที่จะเติบโตควบคู่ไปกับการดูแลชุมชนและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังสามารถกระตุ้นตลาดแรงงาน สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจกระจายรายได้สู้ชุมชน พร้อมสามารถสร้างงานให้ผู้คนในจังหวัดชลบุรีได้กว่า 1,200 ตำแหน่ง”
สำหรับการลงทุนในแผนระยะที่ 2 (ปี 2570-2571) Hisense เตรียมเพิ่มกำลังการผลิตตู้เย็น ตู้แช่แข็ง และเครื่องซักผ้าระดับพรีเมียมขนาดใหญ่ พร้อมลงทุนเพิ่มเติมในผลิตภัณฑ์ระบบปรับอากาศแบบทำความเย็นจากส่วนกลาง เพื่อรองรับความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพของประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการผลิตและกระจายสินค้าสำคัญในภูมิภาคได้อีกระดับ พร้อมยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน และสร้างความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน และส่วนแผนระยะที่ 3 (ปี 2572 – 2573) Hisense เตรียมลงทุนเพื่อขยายอุตสาหกรรมใหม่แห่งอนาคต (new S-curve )
“ในช่วงปี 2567 ที่ผ่านมา Hisense ยังเดินหน้าขยายการลงทุนไปแล้ว 2,100 ล้านบาท เพื่อก่อสร้าง ‘โรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศอัจฉริยะไฮเซ่นส์ (Hisense Air Conditioner Smart Factory)’ ภายในนิคมอุตสาหกรรมเอสเอ็นซี จังหวัดระยอง บนพื้นที่กว่า 98 ไร่ ซึ่งนับเป็นอีกก้าวสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งของเครือข่ายการผลิตในภูมิภาคอาเซียน โดยคาดว่าจะมีกำลังการผลิตเครื่องปรับอากาศสูงสุดถึง 3,000,000 เครื่องต่อปี พร้อมสร้างงานให้กับคนในชุมชนได้มากกว่า 1,500 คน และสนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่น สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ Hisense ที่มุ่งเติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการพัฒนาชุมชนและสังคมไทย สะท้อนความเชื่อมั่นการลงทุนระยะยาวในประเทศไทย” นายโทมัส เทา กล่าวปิดท้าย