Volvo เตรียมสร้างประกฏการณ์ครั้งใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้าอีกครั้ง กับการเผยโฉมของ Volvo ES90 ปี 2025 ที่จะมาพร้อมกับสถาปัตยกรรมแบตเตอรี่ 800V รุ่นถัดไป ที่จะรองรับการชาร์จกำลังไฟที่สูงกว่าเดิม และให้ประสิทธิภาพของยานยนต์ไฟฟ้าที่ดีมากกว่า ยานยนต์ไฟฟ้าที่ใช้งานสถาปัตยกรรมแบตเตอรี่ 400V ที่ผ่านมา
ด้วยการออกแบบการทำงานร่วมกันระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์อัจฉริยะ ทำให้ Volvo ES90 จะเป็นยานยนต์ไฟฟ้าจาก Volvo ที่ชาร์จได้เร็วที่สุด ช่วยให้การชาร์จแบตเตอรี่ของ Volvo ES90 เพียง 10 นาที สามารถวิ่งระยะทางได้ไกล 300 กิโลเมตร ผ่านการชาร์จกำลังไฟสูงสุด 350kW นอกจากนี้ Volvo ES90 สามารถวิ่งระยะทางได้ไกลสูงสุดถึง 700 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP
Volvo ES90 ยานยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมี่ยมที่จะมอบประสบการณ์บนห้องโดยสารที่ทุกคนจะหลงรักและหลงไหลไปกับสุนทรียภาพ และเสถียรภาพของการขับขี่ การโดยสารที่สะดวกสบาย นุ่มลึกในการเดินทางไกลที่เหนือชั้น
สถาปัตยกรรม 800V ที่เหนือใคร
ในการสร้างระบบ 800V ใหม่นี้ ส่วนประกอบทุกส่วนในระบบไฟฟ้าได้รับการอัปเกรดให้เข้ากันได้กับระบบ 800V ซึ่งรวมถึงเซลล์แบตเตอรี่ มอเตอร์ไฟฟ้า อินเวอร์เตอร์ ระบบชาร์จ รวมถึงระบบควบคุมอุณหภูมิและความร้อน ที่จะส่งผลต่อการชาร์จ ประสิทธิภาพของรถยนต์ และประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเเยี่ยมขึ้น
ระบบ 800V มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่นๆ ที่มีน้ำหนักเบากว่า ช่วยลดน้ำหนักโดยรวมของรถ และยังช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบ พร้อมเพิ่มอัตราเร่งและระยะทางที่วิ่งได้ของรถได้ในทางเดียวกัน
ส่วนซอฟต์แวร์จัดการแบตเตอรี่ใหม่ ที่พัฒนาขึ้นภายใน Volvo จะช่วยสร้างประสบการณ์การชาร์จที่ดียิ่งขึ้น เมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้า Volvo รุ่นอื่นๆ ด้วยซอฟต์แวร์ใหม่นี้ สามารถลดเวลาในการชาร์จ ES90 จาก 10 ถึง 80% ลงได้ถึง 30% หรือลดระยะเวลาการชาร์จลงมา 20 นาที ด้วยชุดซอฟต์แวร์ Breathe Battery Technologies ซึ่งเป็นเทคโนโลยที่ทาง Volvo ลงทุนเมื่อปีที่แล้ว ผ่านหน่วยงาน Volvo Cars Tech Fund
ความยั่งยืนที่เป็นมิตรมากขึ้น
Volvo ES90 เลือกใช้วัสดุรีไซเคิลและวัสดุธรรมชาติซึ่งช่วยลดการปล่อย CO2 ในการผลิตอลูมิเนียมทั้งหมด 29% และการผลิตเหล็กทั้งหมด 18% ที่ถูกนำมาใช้ใน Volvo ES90 นอกจากนี้ยังประกอบด้วยโพลีเมอร์รีไซเคิลและวัสดุชีวภาพ 16% และส่วนของแผงไม้ภายใน ES90 ก็ได้รับการรับรองจาก FSC หรือก็คือ องค์กรพิทักษ์ป่าไม้
Volvo ES90 ยังมาพร้อมกับ battery passport ที่เป็นการใช้เทคโนโลยีบล็อคเชนเพื่อติดตาวัตถุดิบที่จะบอกว่า ลิเธียม โคบอลต์ นิกเกิล และกราไฟต์ที่ใช้ในแบตเตอรี่มาจากที่ใด นอกจากนี้ยังเน้นย้ำถึงปริมาณการปล่อย CO2 ของชุดแบตเตอรี่ทั้งหมด และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ด้านความยั่งยืน ซึ่งจะช่วยให้มีความโปร่งใสเกี่ยวกับวิธีการจัดหาวัตถุดิบแบตเตอรี่อย่างมีความรับผิดชอบ