Indorama Ventures ประกาศใช้ระบบ Taulia ของ SAP เพื่อปรับปรุงการบริหารจัดการระบบห่วงโซ่อุปทาน

 

วันนี้ SAP ได้ประกาศว่า บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ Taulia เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเงินทุนหมุนเวียนภายใต้โครงการของบริษัทฯ ในการปรับเปลี่ยนการดำเนินงานด้านการผลิตทั่วโลก ลดต้นทุน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดย Taulia ซึ่งถูก SAP เข้าซื้อกิจการในปี พ.ศ. 2565 เป็นผู้ให้บริการโซลูชันการจัดการเงินทุนหมุนเวียนชั้นนำ และมีเป้าหมายที่จะช่วยให้ลูกค้าของ SAP สร้างกระแสเงินสดอิสระมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ และปรับปรุงความยืดหยุ่นและความยั่งยืนในห่วงโซ่อุปทาน

อินโดรามา เวนเจอร์ส มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ประเทศไทย เป็นหนึ่งในผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก โดยมีโรงงานผลิตประมาณ 140 แห่งใน 5 ทวีป ในฐานะส่วนหนึ่งของโปรแกรมการเปลี่ยนแปลง IVL 2.0 และ Procurement 4.0 กระแสเงินสดอิสระถือเป็นเป็นเป้าหมายหลักของบริษัท ภายใต้โปรแกรมชำระเงินล่วงหน้าของ Taulia ซึ่งได้เริ่มใช้งานในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา อินโดรามา เวนเจอร์ส สามารถเสนอตัวเลือกการชำระเงินล่วงหน้าแก่ซัพพลายเออร์ในอัตราพิเศษ โดยมุ่งเป้าไปที่การปรับปรุงสภาพคล่องของห่วงโซ่อุปทานและเพิ่มประสิทธิภาพเงินทุนหมุนเวียน พร้อมทั้งสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจผ่านโซลูชันระดับโลกที่เป็นหนึ่งเดียว และคาดว่าซัพพลายเออร์ทั่วโลกของบริษัทฯ จะได้รับประโยชน์อย่างต่อเนื่องจากโปรแกรมนี้

การนำ Taulia มาใช้จะช่วยทำให้อินโดรามา เวนเจอร์ส สามารถลดระยะเวลาในการชำระเงินให้กับซัพพลายเออร์ได้ ช่วยทำให้สถานะทางการเงินของอุตสาหกรรมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (MSME) ในเอเชียดีขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้วการชำระเงินจะเกิดขึ้นภายใน 60 ถึง 90 วัน โมเดล ‘multifunder’ ของ Taulia จะช่วยทำให้อินโดรามา เวนเจอร์ส สามารถเข้าถึงระบบนิเวศของสถาบันการเงินต่างๆ ได้ ทำให้มีความยืดหยุ่นและลดความเสี่ยงผ่านแหล่งเงินทุนที่หลากหลาย ขณะที่ซัพพลายเออร์ก็สามารถเข้าถึงแหล่งสภาพคล่องที่มั่นคงสำหรับใบแจ้งหนี้ค้างชำระได้ การบูรณาการนี้จะช่วยให้ทีมการเงินและจัดซื้อของบริษัทฯ สามารถเปรียบเทียบเงินทุนหมุนเวียนกับคู่แข่งระดับโลกได้ พร้อมทั้งขับเคลื่อนประสิทธิภาพและการทำงานอัตโนมัติในกระบวนการจัดการเงินทุนหมุนเวียน

อินโดรามา เวนเจอร์ส เริ่มต้นเส้นทางการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิทัลในปี พ.ศ. 2563 โดยนำเครื่องมือต่างๆ รวมถึงแพลตฟอร์ม SAP S/4HANA ERP มาใช้ โดยในขั้นตอนต่อไปของการเปลี่ยนแปลงนี้ บริษัทกำลังเปิดตัวโซลูชันดิจิทัลและ AI มากมายที่สามารถสร้างมูลค่าและประสิทธิภาพในด้านปฏิบัติการหลักๆ รวมถึงการผลิต การพาณิชย์ การจัดซื้อ การขาย ห่วงโซ่อุปทาน และด้านการเงิน

คุณซันเจย์ อาฮูจา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านกลยุทธ์และการเปลี่ยนแปลงองค์กร อินโดรามา เวนเจอร์ส กล่าวว่า "อินโดรามา เวนเจอร์ส เลือกที่จะใช้ Taulia เนื่องจาก Taulia มีประสบการณ์อันยาวนานในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์พิเศษ รวมถึงการบูรณาการเข้ากับ SAP ให้เป็นหนึ่งเดียว ระบบนิเวศของธนาคารหลายแห่ง การรับซัพพลายเออร์เข้าทำงานอย่างรวกเร็วภายใน 90 วินาที และเครือข่ายซัพพลายเออร์หลายล้านรายที่กว้างขวาง ซึ่งความร่วมมือกับ SAP และการนำ Taulia มาใช้จะช่วยปรับปรุงกระบวนการทางการเงินของเรา และปรับปรุงเป้าหมายด้านไอทีและการจัดการกระแสเงินสดของเราได้ โครงการริเริ่มนี้มุ่งหวังที่จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์กับซัพพลายเออร์ของเราโดยการรับรองการชำระเงินที่รวดเร็วขึ้น ซึ่งมีความสำคัญต่อการเติบโตและความมั่นคงของซัพพลายเออร์"

คุณกุลวิภา ปิยวัฒนเมธา กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคอินโดจีน บริษัท SAP กล่าวว่า “การใช้ Taulia ของ อินโดรามา เวนเจอร์ส ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับธุรกิจในประเทศไทย การเร่งกระบวนการชำระเงินและปรับปรุงกระบวนการทางการเงินจะช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดหาสภาพคล่องที่จำเป็นต่อการเติบโตและก้าวหน้าให้แก่ซัพพลายเออร์ในประเทศได้ นอกจากนี้ ความคิดริเริ่มนี้ยังสอดคล้องกับพันธกิจของเราในการสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศไทยและของรัฐบาลที่มุ่งเสริมสร้างความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทานของประเทศ ซึ่งเราจะร่วมกันสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นสำหรับอนาคต”

คุณ Rene Ho ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Taulia กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ประกาศความร่วมมือกับ อินโดรามา เวนเจอร์ส ในการบรรลุเป้าหมายกระแสเงินสดอิสระภายใต้โครงการ IVL 2.0 เราเข้าใจถึงบทบาทสำคัญที่ห่วงโซ่อุปทานมีต่อความสำเร็จของบริษัท ผ่านโปรแกรมการชำระเงินล่วงหน้าของ Taulia เรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้ซัพพลายเออร์ทุกขนาดสามารถเข้าถึงสภาพคล่องที่ต้องการ ผ่านกลยุทธ์และกรอบการทำงานที่ได้รับการออกแบบมาอย่างรอบคอบ โครงการนี้ยังถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องของเราทั่วเอเชีย ซึ่งเราจะยังคงสนับสนุนบริษัทในเอเชียในการเติบโตและเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทานในท้องถิ่นให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นต่อไป”

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่ SAP News Center. สามารถติดตาม SAP ได้ที่ @SAPNews
ใหม่กว่า เก่ากว่า