SAP ผสานรวมโซลูชัน Business AI เข้ากับพอร์ตโฟลิโอ Enterprise Cloud จับมือผู้นำด้าน AI มอบผลประโยชน์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า

นวัตกรรม Business AI ของ SAP และความร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตร ได้แก่ Google Cloud, Meta, Microsoft, Mistral AI และ NVIDIA Ignite Ingenuity

บริษัท SAP ได้ประกาศเปิดตัวนวัตกรรมและความร่วมมือด้าน AI แบบเชิงสร้างสรรค์ที่แสดงให้เห็นว่าบริษัท SAP มีความมุ่งมั่นที่จะนำพาธุรกิจก้าวหน้าไปสู่อีกระดับในยุคของ AI ณ งานประชุมประจำปี SAP Sapphire ซึ่ง SAP ได้จุดประกายในการใช้ข้อมูลเชิงลึกและความฉลาดของเทคโนโลยีกับเข้ากับธุรกิจระดับโลก โดยมีการผสมผสาน Business AI เข้ากับพอร์ตโฟลิ enterprise cloud เพื่อช่วยขับเคลื่อนกระบวนการที่สำคัญ ๆ และได้ร่วมมือกับบริษัทต่างๆ ที่พยายามก้าวข้ามขีดจำกัดของการใช้เทคโนโลยี AI

Christian Klein ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและสมาชิกคณะกรรมการบริหารของ SAP SE กล่าวว่า "นวัตกรรม Business AI ที่เราประกาศในงาน SAP Sapphire 2567 จะช่วยกำหนดรูปแบบในการดำเนินธุรกิจใหม่ การประกาศถึงนวัตกรรมและความร่วมมือด้าน AI ในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นของเราในการส่งมอบเทคโนโลยีปฏิวัติวงการที่ขับเคลื่อนผลลัพธ์ในโลกแห่งความเป็นจริง ช่วยให้ลูกค้ามีความคล่องตัว ความเฉลียวฉลาด สามารถประสบความสำเร็จในภูมิทัศน์ทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน"

AI ที่สำคัญต่อธุรกิจ

เนื่องจาก SAP ได้ฝัง Business AI ไว้ในโซลูชันขององค์กร จึงช่วยทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์ ได้รับผลลัพธ์ที่ดีขึ้น และยกระดับความสามารถในการแก้ปัญหาของมนุษย์ได้ดีกว่าเดิม เช่น รายงานที่สร้างโดย AI โดยโซลูชัน SAP SuccessFactors ซึ่งสามารถมอบข้อมูลเชิงลึกที่มาจากแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดแก่ผู้จัดการฝ่ายบุคคลเพื่อใช้ในการหารือเกี่ยวกับค่าตอบแทนต่างๆ รวมถึงความสามารถในการคาดการณ์ในโซลูชัน SAP Sales Cloud ที่สามารถคาดการณ์ด้านพนักงานขายและผลิตภัณฑ์เพื่อที่จะช่วยกระตุ้นยอดขาย ในขณะเดียวกัน SAP Business Technology Platform ได้มีการขยายโมเดลด้านภาษาบน Amazon Web Services, Meta และ Mistral AI ลงในฮับ AI เชิงสร้างสรรค์ ความสามารถนี้ในโครงสร้างพื้นฐาน SAP AI Core จะช่วยให้การใช้งาน AI เชิงสร้างสรรค์บนแอปพลิเคชัน SAP สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น

SAP เริ่มมีการพัฒนาการใช้งาน Joule ซึ่งเป็นแชทบอท Generative AI ของ SAP ไปสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์โซลูชันของบริษัท ซึ่ง Joule มีความสามารถในการจัดเรียงและจัดบริบทข้อมูลจากระบบต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อยกระดับการทำงานอัตโนมัติและปรับปรุงการตัดสินใจในการดำเนินงาน Joule ได้ถูกเปิดตัวในโซลูชัน SAP SuccessFactors เมื่อไม่นานมานี้ และปัจจุบันได้ถูกฝังไว้ในโซลูชัน SAP S/4HANA Cloud และโซลูชันอื่นๆ รวมถึง SAP Build และ SAP Integration Suite การขยายไปสู่โซลูชันเพิ่มเติมภายในสิ้นปีนี้นั้นจะรวมถึงโซลูชัน SAP Ariba และ SAP Analytics Cloud นอกจากนี้ SAP ยังได้ประกาศแผนการพัฒนา Joule ให้ดียิ่งขึ้นอีกขั้น ณ งาน Sapphire โดยได้พัฒนาให้เข้ากับ Microsoft Copilot เพื่อแสดงข้อมูลเชิงลึกที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น การพัฒนาแบบสองทิศทางนี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ในการทำงานที่ดีขึ้นไปอีกขั้น สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างราบรื่นจากการโต้ตอบกับแอปพลิเคชันทางธุรกิจใน SAP และ Microsoft 365


นอกจากนี้ SAP ได้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นที่มีต่อหลักการของ AI คือ ความถูกต้อง น่าเชื่อถือ และมีความรับผิดชอบ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของ Business AI ที่มีเพิ่มมากขึ้น โดยในงาน Sapphire ทาง SAP ได้นำหลักการ 10 ประการจากคำแนะนำของ UNESCO เกี่ยวกับจริยธรรมของปัญญาประดิษฐ์มาใช้ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้แน่ใจว่าเทคโนโลยี AI จะได้รับการพัฒนาและใช้งานในลักษณะที่เคารพต่อสิทธิมนุษยชน ส่งเสริมความยุติธรรม และสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยื


ความร่วมมือเพื่อขยายขอบเขตของนวัตกรรม


SAP ได้ร่วมมือกับผู้นำด้านเทคโนโลยีชั้นนำ เพื่อขยายขอบเขตความสามารถของ AI เชิงสร้างสรรค์ในระดับองค์กร นอกเหนือจากความร่วมมือของเรากัAWS และ Microsoft แล้ว ความร่วมมือกับ Google Cloud, Meta, Mistral AI และ NVIDIA ยังช่วยให้ SAP สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่รองรับ AI เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมได้อย่างรวดเร็วและมอบผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น


Google Cloud

SAP และ Google Cloud กำลังขยายความร่วมมือโดยใช้ Business AI เพื่อช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถคาดการณ์และลดความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทานได้ดีขึ้น เพื่อลดการหยุดชะงักและรักษาระดับสินค้าคงคลังให้เหมาะสมได้ บริษัททั้งสองจะพัฒนา Joule และโซลูชัน SAP Integrated Business Planning for Supply Chain เข้ากับ AI โมเดล Gemini ของ Google Cloud และฐานข้อมูลพื้นฐานของ Google Cloud Cortex Framework


Meta

SAP จะใช้ประโยชน์จาก Meta Llama 3 เพื่อสร้างสคริปต์ที่แสดงผลแอปพลิเคชันวิเคราะห์ที่สามารถปรับแต่งได้ใน SAP Analytics Cloud โมเดล AI รุ่นถัดไปของ Meta มีความโดดเด่นด้านความแตกต่างของภาษาและความเข้าใจบริบท ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการแปลความหมายทางธุรกิจขององค์กรให้เป็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม


Mistral AI

SAP จะเพิ่มโมเดลภาษาขนาดใหญ่จาก Mistral AI ซึ่งเป็นที่เชี่ยวชาญด้าน AI เชิงสร้างสรรค์ระดับโลก มีสำนักงานใหญ่ในปารีส ลงในฮับ AI ใน SAP AI Core


NVIDIA

SAP และ NVIDIA Corporation ร่วมกันพัฒนา cross-product partnership เพื่อฝังเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยลงในแอปพลิเคชันของธุรกิจที่พร้อมสำหรับองค์กร:

  • ในขณะที่ SAP ได้ฝึกแชทบอท Joule ให้ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วย AI ของ RISE ด้วยการนำโซลูชัน SAP ไปใช้งาน โมเดล AI ที่ล้ำสมัยของ NVIDIA ก็จะคัดกรองทรัพยากรที่ปรึกษา SAP เพื่อให้คำตอบที่เกี่ยวข้องและแม่นยำต่อคำถาม

  • ในขณะที่ SAP ฝัง Joule ไว้ในโมเดล ABAP Cloud เพื่อสร้างโค้ด ABAP โครงสร้างพื้นฐานเร่งความเร็วของ NVIDIA ก็จะทำงาน ปรับขนาด และจัดการโมเดล AI เชิงสร้างสรรค์ของ SAP สำหรับการสร้างโค้ด ABAP

  • เนื่องจาก SAP นำ AI เชิงสร้างสรรค์มาใช้กับโซลูชัน SAP Intelligent Product Recommendation จึงทำให้ NVIDIA Omniverse Cloud API ช่วยให้สามารถจำลองผลิตภัณฑ์และการกำหนดค่าการผลิตที่ซับซ้อนเหมือเป็นฝาแฝดดิจิทัลทางอุตสาหกรรม


เทคโนโลยี Cloud ที่ขับเคลื่อนความคล่องตัวและความยั่งยืน

ความสำเร็จทางธุรกิจในยุคของ AI หมายความว่าธุรกิจต้องอยู่บน Cloud ซึ่ง SAP สามารถทำให้การย้ายธุรกิจง่ายขึ้นกว่าเดิม ลูกค้าสามารถเปลี่ยนแปลง SAP S/4HANA Cloud ที่มีความซับซ้อน นอกจากนี้ นวัตกรรม Cloud จากงาน SAP Sapphire ยังได้รวมฟีเจอร์ที่ช่วยให้องค์กรต่างๆ ทั่วโลกสามาถวัด จัดการ และดำเนินกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนได้ โซลูชัน SAP Sustainability Control Tower และ SAP Sustainability Footprint Management จะช่วยติดตาม carbon footprints ในระดับขนาดใหญ่และช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านกฎระเบียบได้ด้วย


ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงาน โปรดเข้าไปที่ Learn more in the SAP Sapphire 2024 News Guide


อ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่ SAP News Center หรือติดตาม @SAPNews

ใหม่กว่า เก่ากว่า