Google เปิดตัว Pixel 8a อย่างเป็นทางการ ที่มาพร้อมกับขุมพลัง Google Tensor G3 รองรับการใช้งานด้าน Ai ได้เหมือนกับ Pixel 8 และ Pixel 8 Pro ไม่ว่าจะเป็น Gemini, Best Take, Audio Magic Eraser และอีกมากมาย ในราคาสบายกระเป๋ากว่าเพียง $499 ประมาณ 18,400 บาท
Pixel 8a ยกการออกแบบตัวเครื่องมาจากรุ่นพี่ในทุกองค์ประกอบ ทั้งตัวเครื่องโค้งมนกับฝาหลังแบบด้านที่เลือกใช้วัสดุแบบพลาสติกแทนกระจก พร้อมขอบเครื่องแบบอลูมิเนียม โดยหน้าจอของ Pixel 8a เลือกใช้หน้าจอ OLED ขนาด 6.1" ความละเอียด Full HD ความสูงสุด 2,000 nits ที่มีความสว่างมากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 40% และครั้งแรกของตระกูล A-Series กับอัตรารีเฟรชที่สูงถึง 120Hz พร้อมรองรับการรับชมคอนเทนต์ HDR ครอบทับด้วยกระจกกันลอย Gorilla Glass 3
โดยความแตกต่างด้านจอของ Pixel 8 และ Pixel 8a ก็คือ ขอบจอที่ Pixel 8 จะมีความบางกว่าทั้ง 4 ด้าน กับหน้าจอขนาด 6.2" ที่รองรับคอนเทนต์ระดับ HDR10+ กับกระจกครอบหน้าจอแบบ Gorilla Glass Victus
ในด้านของการถ่ายภาพ Pixel 8a ยังคงมาพร้อมกับเซนเซอร์เดิมจาก Pixel 7a ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกล้องเลนส์หลัก 64 MP, f/1.9, 26mm (wide), 1/1.73", 0.8µm, dual pixel PDAF, OIS ที่สามารถซูมได้ไกลสูงสุด 8เท่า แต่ยังคงซึ่งรายละเอียดที่ชัดเจนด้วยการนำ Ai มาใช้ประมวลผลผ่านฟีเจอร์ Super Res Zoom และกล้องอัลตร้าไวด์ 13 MP, f/2.2, 120˚ (ultrawide), 1.12µm เพิ่มความสนุกในมุมมองที่กว้างขึ้น พร้อมรองรับฟีเจอร์ Ai ในการถ่ายรูปทั้ง Best Take, Magic Editor และ Audio Magic Eraser
ให้ทุกก้าวในชีวิตง่ายขึ้นไปอีกขั้นด้วย Google AI
Pixel 8a มาพร้อมกับความสามารถด้าน AI ผ่าน Gemini จากทาง Google ที่รองรับการสั่งงานทั้งการพิมพ์, คำสั่งเสียง และรุปภาพ พร้อมเป็นผู้ช่วยในการสรุปงานต่างๆ ให้เราเข้าใจง่ายขึ้น หรือการค้นหาทุกอย่างได้อย่างรวดเร็วกว่า ผ่าน Circle to Search นอกจากนี้ Pixel 8a มาพร้อมกับ Pixel Call Assist ด้วยการประมวลผลผ่าน AI ที่รองรับการใช้งานทั้ง Call Screen, Direct My Call, Hold for Me, Clear Calling และอีกมากมาย
Aloe |
Bay |
Porcelain |
Obsidian |
Google Pixel 8a จำหน่ายในราคาเริ่มต้น $499 ประมาณ 18,400 บาท แรม 8GB LPDDR5x ความจุ 128GB UFS3.1 และ $559 ประมาณ 20,600 บาท ความจุ 256GB UFS3.1 กับตัวเลือกสีเครื่อง 4 สี คือ Aloe, Bay, Obsidian, Porcelain