Stripe ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ สำหรับชุดโซลูชั่นการรับชำระเงินที่ถูกปรับให้ดียิ่งขึ้น (Optimized Checkout Suite) เพื่อช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่ธุรกิจในประเทศไทยและทั่วโลก โดยทำให้การทำรายการซื้อสินค้าง่ายขึ้นสำหรับลูกค้าชุดโซลูชั่นการรับชำระเงินที่ถูกปรับให้ดียิ่งขึ้นนี้ เกิดจากผลการวิจัยในระยะเวลาหลายปีของ Stripe และได้รวบรวมไว้ในชุดผลิตภัณฑ์ เครื่องมือ และฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ธุรกิจสามารถนำไปใช้เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าโดยไม่จำเป็นต้องพัฒนาซอฟท์แวร์ที่ซับซ้อน การอัปเกรดล่าสุดเหล่านี้ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการชำระเงินที่ใหญ่ที่สุดที่มีมาของ Stripe มอบตัวเลือกวิธีการชำระเงินที่มากขึ้นสำหรับผู้บริโภค และเป็นวิธีที่ง่ายสำหรับธุรกิจที่จะสนับสนุนการชำระเงินด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว รวมทั้งเป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรมในการสร้างเครื่องมือทดสอบ A/B แบบไม่ต้องเขียนโปรแกรม (No-Code) สําหรับธุรกิจเพื่อประเมินประสิทธิภาพของวิธีการชําระเงินที่แตกต่างกัน
คุณธีร์ ฉายากุล ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย บริษัท Stripe ประเทศไทย กล่าวว่า “ประสบการณ์การชำระเงินที่สมบูรณ์แบบคือการที่ลูกค้าคนใดก็ตาม จากที่ใดในโลกนี้ก็ตาม สามารถซื้อสินค้าให้เสร็จสิ้นได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที โดยใช้วิธีการชำระเงินในรูปแบบที่เขาต้องการ และใช้ความพยายามทางวิศวกรรมเพียงเล็กน้อยจากธุรกิจในการสร้างหรือบำรุงรักษาระบบการชำระเงินนี้ ประสบการณ์ดังกล่าวนี้อาจจะยังไม่สมบูรณ์แบบนักแต่เรากำลังเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ ต้องขอบคุณความพยายามจากวิศวกรด้านการชำระเงินหลายพันคนของ Stripe”
โซลูชั่นการรับชำระเงินที่ถูกปรับให้ดียิ่งขึ้น
ชุดโซลูชั่นการรับชำระเงินที่ถูกปรับให้ดียิ่งขึ้นนี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถมอบประสบการณ์การชำระเงินที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าโดยไม่ต้องสร้างโปรแกรมขึ้นมาด้วยตนเอง ตัวระบบได้รวบรวมนำอินเตอร์เฟสของผู้ใช้ที่ได้สร้างไว้แล้ว (Pre-Built UIs) เข้ากับตัวเลือกการชำระเงินแบบเร่งด่วน รวมถึงวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย และระบบการควบคุมต่าง ๆ ที่ช่วยให้ธุรกิจและแพลตฟอร์มสามารถปรับแต่งประสบการณ์การชำระเงินสำหรับลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
ฟีเจอร์การใช้งานใหม่ของชุดโซลูชั่นการรับชำระเงินที่ถูกปรับให้ดียิ่งขึ้นประกอบด้วย
- เข้าถึงวิธีการชำระเงินมากกว่า 100 วิธี ซึ่งได้รวมถึง RevolutPay, Mobile Pay การโอนเงินผ่านธนาคารในประเทศสหรัฐอเมริกา และระบบ Swish นอกจากนี้ชุดโซลูชั่นการรับชำระเงินที่ถูกปรับให้ดียิ่งขึ้นนี้ ยังมอบวิธีการชำระเงินที่เหมาะสมให้แก่ลูกค้าแบบไดนามิก จากตัวเลือกมากกว่า 40 ตัวเลือก โดยใช้อัลกอริทึมที่ได้รับการฝึกจากชุดข้อมูลกว่าพันล้านชุด ตัวอย่างเช่น ระบบ Payment Element จะแนะนำให้ลูกค้าจากเมืองปารีส ใช้ช่องทางชำระเงินกับ Cartes Bancaires สำหรับการซื้อสินค้าในประเทศญี่ปุ่น ในขณะที่ระบบจะเสนอช่องทางพร้อมเพย์ ให้กับลูกค้าชาวไทยที่เลือกซื้อสินค้าภายในประเทศ เป็นต้น
- เครื่องมือทดสอบ A/B ช่วยให้ธุรกิจสามารถระบุวิธีการชำระเงินที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดได้อย่างแม่นยำในขั้นตอนการชำระเงิน และพัฒนาปรับปรุงระบบด้วยข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์มของครีเอเตอร์ Thinkific ได้ใช้ระบบทดสอบ A/B ทดสอบพบว่าการเสนอรูปแบบซื้อก่อน จ่ายทีหลัง ช่วยเพิ่มมูลค่าการสั่งซื้อเฉลี่ยถึง 36% นี่ถือเป็นฟีเจอร์แรกที่ไม่เหมือนใคร Stripe เป็นแพลตฟอร์มการชำระเงินเพียงแพลตฟอร์มเดียวที่นำเสนอเครื่องมือทดสอบ A/B สำหรับวิธีการชำระเงิน แบบไม่ต้องเขียนโค้ด
- รูปแบบการชำระเงินด่วน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแสดงปุ่มชำระเงินแบบคลิกเพียงครั้งเดียวหลายปุ่ม หรือ multiple one-click payment buttons (เช่น Apple Pay, Google Pay หรือ ระบบ Payment Link) ด้วยองค์ประกอบเดียว วิธีการชำระเงินจะถูกนำเสนอแบบไดนามิก ตามลำดับความเกี่ยวข้องกับลูกค้าแต่ละคนมากที่สุด โดยแสดงเฉพาะวิธีการชำระเงินที่อุปกรณ์หรือเบราว์เซอร์ของลูกค้าสามารถรองรับได้เท่านั้น ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าธุรกิจที่เปิดใช้งานระบบ Link มีสัดส่วนยอดขายต่อการเข้าชมของลูกค้า (Conversion) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ
จิม ทอมป์สัน แบรนด์แฟชั่นซึ่งมีชื่อเสียงด้านผ้าไหม เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมค้าปลีกของประเทศไทย หลังจากได้ปรับระบบชำระเงินให้ทันสมัย รับกับลูกค้าชาวต่างชาติและการซื้อสินค้าออนไลน์ ทางเแบรนด์สามารถลดจำนวนการยกเลิกชำระเงินออนไลน์ได้มากถึงสามเท่า นอกจากนี้แล้วยังยกระดับประสบการณ์การซื้อออนไลน์ของลูกค้าและเพิ่มรายได้ออนไลน์ขึ้นเป็นอย่างมาก
ปัญจรัตน์ ลิมปินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่ธุรกิจการค้า จิม ทอมป์สันได้กล่าวว่า “การพัฒนาประสบการณ์การชำระเงินออนไลน์ให้กับลูกค้าของเราด้วย Stripe ถือเป็นก้าวที่สำคัญสำหรับแบรนด์ไลฟ์สไตล์ระดับโลกของเรา เรามั่นใจว่าความร่วมมือครั้งนี้จะยกระดับชื่อเสียงของแบรนด์ที่แข่งแกร่งอยู่แล้ว กลับกลุ่มคนรุ่นใหม่ในรุ่น Millennial และ Gen Z ซึ่งชื่นชอบการซื้อสินค้าออนไลน์”
โอกาสในการสร้างรายได้ระยะสุดท้าย
โลกอินเทอร์เน็ตขณะนี้เต็มไปด้วยการชำระเงินที่ไร้ประสิทธิภาพ ปริมาณยอดขายจำนวนมากมีประสิทธิภาพต่ำกว่าความคาดหวังของทั้งผู้บริโภคและความต้องการของธุรกิจ จากการวิจัยของ Stripe พบว่า 99% ของเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซชั้นนำมีข้อผิดพลาดด้านระบบชำระเงินไม่ต่ำกว่าห้าข้อหรือมากกว่านั้น ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อลูกค้าในการซื้อสินค้าให้เสร็จสมบูรณ์ 60% ของผู้ซื้อออนไลน์กล่าวว่าพวกเขาจะล้มเลิกการชำระเงินที่ต้องใช้เวลามากกว่าสองนาทีในการดำเนินการให้เสร็จสิ้น แต่โดยเฉลี่ยแล้วการชำระเงินจะใช้เวลามากกว่าสามนาทีขึ้นไป และผู้บริโภค 85% กล่าวว่าพวกเขาจะยกเลิกการซื้อสินค้าเช่นกัน หากเว็บไซต์ไม่มีวิธีการชำระเงินที่ต้องการมานำเสนอให้
การวิจัยของ Stripe พบว่าธุรกิจที่เปลี่ยนจากการเชื่อมต่อ Stripe รูปแบบเก่า มาใช้ชุดโซลูชั่นการรับชำระเงินที่ถูกปรับให้ดียิ่งขึ้นนั้น มีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 10.5%
ชุดโซลูชั่นการรับชำระเงินที่ถูกปรับให้ดียิ่งขึ้นนี้เปิดให้บริการแล้วในประเทศไทยและทั่วโลก และจะขยายออกไปเชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์และฟีเจอร์ต่าง ๆ เพิ่มเติมในอนาคตง ผู้ประกอบการไทยที่สนใจเพิ่มสัดส่วนยอดขายต่อการเข้าชมของลูกค้าและเพิ่มรายได้ สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่นี่