ล้ำลึกไปอีกระดับด้วยแอป Oceanic+ และ Apple Watch Ultra

วันนี้แอป Oceanic+ บน Apple Watch Ultra พร้อมแล้วที่จะเปลี่ยนนาฬิกาที่สมบุกสมบันที่สุดของ Appleให้กลายเป็นไดฟ์คอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังและใช้ง่าย
 

วันนี้แอป Oceanic+ พร้อมแล้วที่จะเปลี่ยนนาฬิกาที่สมบุกสมบันที่สุดของ Apple อย่าง Apple Watch Ultra ให้กลายเป็นไดฟ์คอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถเต็มรูปแบบและใช้ง่าย แอป Ocenic+ ซึ่งออกแบบโดย Huish Outdoors ร่วมกับ Apple ช่วยให้นักดำน้ำสกูบาเชิงนันทนาการสามารถนำนาฬิกาที่ใส่อยู่ในชีวิตประจำวันดำลงไปสู่ความลึกสูงสุด 40 เมตร อย่างที่ไม่เคยทำได้มาก่อนด้วยตัววัดความลึกแบบใหม่หมดและเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิน้ำบน Apple Watch Ultra


แอป Oceanic+ บน Apple Watch Ultra และแอปสำหรับใช้งานคู่กันบน iPhone มีครบทุกคุณสมบัติสำคัญของไดฟ์คอมพิวเตอร์ที่ล้ำสมัย การวางแผนดำน้ำที่ละเอียด และประสบการณ์หลังการดำน้ำที่ครบถ้วนสมบูรณ์แบบ


"จุดประสงค์ของพวกเราที่ Huish Outdoors คือการเป็นเชื้อไฟให้กับจิตวิญญาณที่รักการผจญภัยของมนุษย์" Mike Huish ซึ่งเป็น CEO ของบริษัท กล่าว "แอป Oceanic+ บน Apple Watch Ultra เป็นหนึ่งในนวัตกรรมสำคัญที่สุดที่เราไม่เห็นในวงการดำน้ำมานานแล้ว และเราก็ต้องการสร้างประสบการณ์การดำน้ำที่เข้าถึงได้ แชร์ได้ และดียิ่งขึ้นสำหรับทุกคน"


นักดำน้ำสกูบากลุ่มแรกเริ่มออกทะเลในช่วงทศวรรษ 1950 เพื่อดำสำรวจความลึกของผืนน้ำบนโลกใบนี้ ซึ่งในตอนนั้นยังคงไม่มีไดฟ์คอมพิวเตอร์จนกระทั่งอีกประมาณ 30 ปีให้หลัง ต่อมาในช่วงทศวรรษ 80 และ 90 นักดำน้ำที่ผ่านการรับรองหลายคนยังคงใช้ปากกาเขียนตารางการดำน้ำของตัวเอง โดยที่พวกเขาใช้อัลกอริทึมการลดความกดของ Bühlmann เพื่อติดตามความลึกและระยะเวลาที่อยู่ในน้ำเพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถดำลงสู่ใต้ผิวน้ำได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ทำให้ร่างกายมีไนโตรเจนสูงเกินไปจนเป็นอันตราย



วันนี้ Apple Watch Ultra พลิกโฉมประสบการณ์นี้ไปโดยสิ้นเชิงโดยช่วยให้นักดำน้ำเชิงนันทนาการมีอุปกรณ์ที่สะดวกขึ้นและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น พร้อมด้วยคุณสมบัติที่ผู้ใช้คุ้นเคยและชื่นชอบอยู่แล้วบน Apple Watch อย่างครบครัน


"วันนี้เรามีเพื่อนคู่ใจที่สื่อสารข้อมูลถึงนักดำน้ำได้อย่างชัดเจนและถูกจังหวะ" Andrea Silvestri รองประธานฝ่ายการพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์ของ Huish Outdoors ซึ่งเป็นผู้นำการสร้างแอป Oceanic+ กล่าว Silvestri ได้ทำการทดสอบ Oceanic+ บนนาฬิกาใต้น้ำเพื่อเตรียมแอปให้พร้อมสำหรับการเปิดตัว


เขาชื่นชม Apple Watch Ultra ตรงที่ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน ซึ่งช่วยให้นักดำน้ำสามารถจดจ่ออยู่กับช่วงเวลานั้นและมีสมาธิกับสภาพแวดล้อมโดยไม่ต้องกังวลกับการคิดคำนวณในใจและการกดปุ่มที่ซับซ้อนอย่างที่ต้องทำกับไดฟ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ "Apple Watch Ultra มีตั้งแต่จอภาพ Retina ขนาดใหญ่ที่สว่าง และ SiP รุ่น S8 แบบ Dual-core ไปจนถึงขนาดที่กะทัดรัด, Digital Crown และปุ่มการทำงานที่มีมาให้เฉพาะ หรือแม้แต่การตอบสนองแบบสั่น ซึ่งออกแบบมาดีเยี่ยมและสังเกตเห็นได้ง่ายมากเมื่ออยู่ในน้ำ เรียกว่าเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนเลยในการดำน้ำสกูบา" Silvestri กล่าว


Apple Watch Ultra สร้างมาสำหรับกิจกรรมที่เน้นความทนทานของร่างกาย การสำรวจ และการผจญภัย อีกทั้งยังผ่านการรับรอง WR100 และ EN 13319 ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากลสำหรับอุปกรณ์ดำน้ำ อย่างตัววัดความลึก2 ในขณะที่ตัวเรือนไทเทเนียม 49 มม. และด้านหน้าแบบผลึกแซฟไฟร์ที่แบนเรียบเผยให้เห็นจอภาพ Apple Watch ที่ใหญ่และสว่างที่สุดเท่าที่เคยมีมา สูงสุดถึง 2,000 นิต จึงมองเห็นได้ชัดเจนขณะอยู่ใต้น้ำ นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งปุ่มการทำงานเพื่อใช้สำหรับเปิดแอป Oceanic+ เข้าสู่หน้าจอก่อนเริ่มดำน้ำ และขณะดำน้ำอยู่ยังสามารถกดปุ่มการทำงานเพื่อกำหนดองศาทิศบนเข็มทิศได้ด้วย



Silvestri ย้อนความหลังช่วงต้นทศวรรษ 90 ตอนที่เขาออกแบบไดฟ์คอมพิวเตอร์เครื่องแรกของตัวเอง "ไดฟ์คอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ใช้อัลกอริทึมคล้ายๆ กัน แต่กว่าจะเข้าใจข้อมูลที่เครื่องกำลังบอกนั้นบอกเลยว่าต้องใช้ความพยายามสูงมาก" เขากล่าว "หนึ่งในสิ่งที่เรียกได้ว่าปฏิวัติวงการเลยสำหรับแอปใหม่ของเราก็คืออินเทอร์เฟซการใช้งาน ทั้งสีสัน และแอนิเมชั่น โดยมีลูกศรหนึ่งอันบอกผมให้ 'ดำขึ้น', 'ดำลง' หรือ 'หยุด' ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการถ่ายทอดข้อมูลนั้น


"หนึ่งในเป้าหมายแรกๆ ของเราคือการทำให้แอปนี้ใช้ง่าย" Mike Huish กล่าว "ผู้ที่ใช้ Apple Watch เป็นอยู่แล้วก็จะใช้ไดฟ์คอมพิวเตอร์เป็นทันที เพราะไดฟ์คอมพิวเตอร์จะบอกข้อมูลในรูปแบบง่ายๆ ที่พวกเขาเข้าใจได้ไม่ต่างจาก Apple Watch เมนูเข้าออกส่วนต่างๆ นั้นก็เรียบง่าย เพียงแค่เลื่อนขึ้นลงด้วย Digital Crown และใช้ปุ่มการทำงาน คุณก็สามารถควบคุมและใช้ทุกฟังก์ชั่นของไดฟ์คอมพิวเตอร์ขณะดำน้ำได้แล้ว"



ในตัววางแผนการดำน้ำ ผู้ใช้สามารถตั้งเวลาขึ้นสู่ผิวน้ำ ความลึก และก๊าซ แล้วแอป Oceanic+ จะคำนวณเวลา No Deco (ไม่ติดดีคอมเพรสชั่น) ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ใช้กำหนดระยะเวลาสูงสุดสำหรับนักดำน้ำที่ความลึกระดับใดระดับหนึ่ง นอกจากนี้ตัววางแผนยังนำสภาพต่างๆ ที่ส่งผลต่อการดำน้ำมาพิจารณาด้วย อย่างน้ำขึ้นน้ำลง อุณหภูมิน้ำ หรือแม้แต่ข้อมูลล่าสุดที่ส่งมาจากชุมชน อย่างทัศนวิสัยและกระแสน้ำ จากนั้นเมื่อดำน้ำเสร็จ ผู้ใช้ก็จะเห็นข้อมูลต่างๆ อย่างจุดลงและจุดขึ้นตาม GPS ซึ่งจะแสดงขึ้นมาบน Apple Watch Ultra โดยอัตโนมัติ พร้อมกับข้อมูลสรุปโปรไฟล์การดำน้ำ ส่วนแอป Oceanic+ บน iPhone ก็จะแสดงข้อมูลสรุปที่มีรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น แผนที่ของจุดลงและจุดขึ้น กราฟความลึก อุณหภูมิ อัตราการเปลี่ยนระดับขึ้น และลิมิตของการเกิดดีคอมเพรสชั่น


หนึ่งในคุณสมบัติที่เข้าใจผู้ใช้มากที่สุดของแอป Oceanic+ บน Apple Watch Ultra ก็คือการตอบสนองแบบสั่น ซึ่งเป็นความสำเร็จด้านการออกแบบทั้งในส่วนฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ทำให้นาฬิกาสามารถสะกิดเตือนผู้ใช้บนข้อมือได้โดยใช้วิธีการสั่นต่อเนื่องเป็นชุด ซึ่งช่วยให้นักดำน้ำรับรู้ถึงการแจ้งเตือนขณะอยู่ใต้น้ำแม้จะสวมเว็ทสูทที่หนาถึง 7 มม. ก็ตาม


และถึงแม้การตอบสนองแบบสั่นจะเป็นคุณสมบัติง่ายๆ ที่สะดวกสบายสำหรับผู้ใช้ทั่วไป แต่เมื่ออยู่ใต้น้ำ คุณสมบัตินี้กลับมีบทบาทสำคัญชนิดที่คาดไม่ถึง นั่นคือการเอาชนะเสียงรบกวนที่มาจากเสียงสะท้อนได้  


"การแผ่ของเสียงขณะอยู่ในน้ำนั้นทรงพลังกว่าขณะอยู่ในอากาศมาก" Silvestri กล่าว "ทีนี้สมมุติว่าผมดำน้ำอยู่กับอีกคนหนึ่งและไดฟ์คอมพิวเตอร์ของคนนั้นส่งเสียง ผมก็จะบอกไม่ได้ว่าเสียงบี๊ปนั้นเป็นของผมหรือของอีกคน ถึงผมจะได้ยินเสียงบี๊ป ก็ไม่รู้ว่าเสียงนั้นมาจากทิศทางไหน แต่เมื่อนำการตอบสนองแบบสั่นที่ออกแบบมาสำหรับ Ultra มาใช้ร่วมด้วย ก็เท่ากับเราได้ทำให้นักดำน้ำได้รับประสบการณ์แบบเฉพาะตัวไปเลย เหมือนเป็นการสะกิดเบาๆ เพื่อคอยนำทางคุณ"




แอป Oceanic+ ยังมีกลไกหน้าปัดที่จะนำข้อมูลและเครื่องมือสำคัญมาอยู่ใกล้ๆ ผู้ใช้แค่เหลือบมอง อย่างระยะเวลาห้ามบิน เวลาขึ้นสู่ผิวน้ำ ตัววางแผนการดำน้ำที่เรียกใช้ได้รวดเร็ว การตั้งค่าการดำน้ำ ระดับความสูงปัจจุบัน ระดับความสูงสูงสุดที่อนุญาต และปุ่มสำหรับกลับเข้าสู่แอปอย่างรวดเร็ว โดยที่ผู้ใช้สามารถติดตามและเปรียบเทียบรายละเอียดทั้งหมดของการดำน้ำได้ ตั้งแต่การวางแผนการดำน้ำ จนถึงการลงน้ำครั้งแรก และก้าวแรกที่กลับขึ้นฝั่ง แล้วแชร์ประสบการณ์กับเพื่อนนักดำน้ำได้ทันทีจากในแอป


ลองถามนักดำน้ำคนไหนดูก็ได้ว่ารู้สึกอย่างไรเวลาที่ดำน้ำ แล้วแต่ละคนก็จะเล่าความรู้สึกที่แตกต่างหลากหลาย ซึ่งสำหรับ Huish แล้ว การดำน้ำเป็นเรื่องของการหลีกหนีและการผ่อนคลายโดยสมบูรณ์แบบ Silvestri เรียกมันว่าเป็นห้วงเวลาของการทำสมาธิ "เป็นช่วงที่คุณมีเวลาให้กับตัวเอง มีแค่คุณกับลมหายใจของคุณ รายล้อมไปด้วยปลาและสภาพแวดล้อมที่มหัศจรรย์"



Nick Hollis ซึ่งเป็นผู้จัดการแบรนด์ Oceanic ที่ Huish Outdoors และยังเป็นนักดำน้ำที่ผ่านการรับรองตั้งแต่อายุ 10 ปี พูดคุยเกี่ยวกับความตื่นเต้นของการผจญภัยไปในที่ที่ยังไม่มีใครรู้จัก "ช่วงที่น่าตื่นเต้นที่สุดก็คือในช่วงแรกของการดำลงไปดูปะการัง ซากเรือ หรืออะไรก็ตามที่คุณอยากดำลงไปดู" เขากล่าว "ถ้าโชคดี คุณอาจจะได้เห็นกระเบนยักษ์ ฝูงฉลามหัวค้อน หรือบางทีอาจจะเห็นปลาโลมาเลยก็ได้ ไม่มีทางรู้เลยจริงๆ ว่าแต่ละครั้งที่โดดลงไปจะเจอกับอะไร"


Olivier Laguette รองประธานฝ่ายการตลาดของ Huish Outdoors เปรียบเทียบการดำน้ำว่าคล้ายกับการเดินทางสู่ห้วงอวกาศ เพราะมีทั้งสภาพไร้น้ำหนักและอิสระที่หาไม่ได้บนพื้นดิน


แอป Oceanic+ ออกแบบมาเพื่อช่วยทุกคนที่อยากจุ่มขาลงสู่การผจญภัยที่รออยู่ในโลกใต้น้ำ โดยที่แอปนี้จะทำงานร่วมกับ Apple Watch Ultra เพื่อจัดการกับการคำนวณที่ซับซ้อนทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการสำรวจท้องทะเลอย่างปลอดภัย พร้อมแสดงสิ่งที่ต้องทำ รวมถึงคำแนะนำที่เข้าใจง่ายทั้งก่อน หลัง และในระหว่างการดำน้ำ


นับเป็นการเริ่มต้นบทใหม่ในศตวรรษของการสำรวจ และครึ่งศตรวรรษแห่งความก้าวหน้าด้านคอมพิวเตอร์


"หนึ่งในกีฬาไม่กี่ประเภทที่คอมพิวเตอร์เป็นสิ่งที่ต้องมีก็คือการดำน้ำสกูบา" Silvestri กล่าว "ไม่มีใครที่เป็นนักดำน้ำสกูบาทุกวัน แต่การดำน้ำเป็นอะไรที่เราคิดว่าผู้คนควรได้สนุกกับมัน ได้ใช้เวลาอยู่ในน้ำ และเกิดความรู้สึกเคารพต่อธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ซึ่งจริงๆ แล้วนั่นคือสารหลักที่เราต้องการสื่อ เหมือนกับที่ Jacques Cousteau เคยกล่าวไว้ตั้งแต่เมื่อ 50 ปีที่แล้วว่า เราต้องโต้คลื่นนี้ เราต้องมีคนอยู่ในน้ำมากกว่านี้"

ใหม่กว่า เก่ากว่า