นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อ 20 ปีที่แล้ว iPod ได้สร้างความประทับใจให้แก่ผู้ใช้ทั่วโลกที่ชื่นชอบความสามารถในการพกพาดนตรีไปได้ทุกที่ วันนี้ประสบการณ์ในการพกพาคลังเพลงติดตัวท่องโลกได้ผสานรวมอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Apple ไม่ว่าจะเป็น iPhone และ Apple Watch ไปจนถึง iPad และ Mac โดยมีเพลงให้ฟังมากกว่า 90 ล้านเพลง พร้อมด้วยเพลย์ลิสต์กว่า 30,000 รายการ ที่พร้อมให้เลือกฟังได้ผ่าน Apple Music
"เพลงถือเป็นส่วนที่สำคัญของ Apple เสมอมา และการที่ iPod ได้มอบเสียงเพลงแก่ผู้ใช้หลายร้อยล้านคน ไม่ได้ส่งผลเฉพาะอุตสาหกรรมเพลงเท่านั้น แต่ยังพลิกโฉมการค้นพบ การฟัง และการแชร์เพลงต่างๆ อีกด้วย" Greg Joswiak รองประธานอาวุโสฝ่าย Worldwide Marketing ของ Apple กล่าว "วันนี้จิตวิญญาณของ iPod ยังคงสืบทอดต่อไป เราได้ผสานรวมประสบการณ์ด้านเพลงอันน่าทึ่งเข้ากับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเรา ไม่ว่าจะเป็น iPhone, Apple Watch, HomePod mini เรื่อยไปจนถึง Mac, iPad และ Apple TV อีกทั้ง Apple Music ยังมอบคุณภาพเสียงชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรมที่รองรับระบบเสียงตามตำแหน่ง ดังนั้นไม่มีทางใดที่จะได้เพลิดเพลิน ค้นพบ และสัมผัสกับเสียงเพลงได้ดีเท่านี้อีกแล้ว"
ท่ามกลางหลากหลายวิธีอันน่าทึ่งในการเพลิดเพลินกับเสียงเพลงบนอุปกรณ์มากมาย ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ หลายรุ่นตั้งแต่ iPhone SE ไปจนถึง iPhone 13 Pro Max ล่าสุด กล่าวได้ว่า iPhone คืออุปกรณ์ที่ดีที่สุดสำหรับการสตรีม Apple Music หรือการจัดเก็บคลังเพลงทั้งหมดเอาไว้พกติดตัว เช่นเดียวกับ Apple Watch และ AirPods ที่ถือเป็นอุปกรณ์คู่ใจที่ลงตัว ทำให้ผู้ใช้เข้าถึงเพลงได้จากข้อมือมากกว่า 90 ล้านเพลง โดยมีราคาเริ่มต้นเพียง 9,900 บาทสำหรับ Apple Watch SE iPad มีราคาเริ่มต้นเพียง 11,400 บาท มาพร้อมชิปที่ทรงพลังยิ่งขึ้น หน้าจอขนาดใหญ่ และฟีเจอร์ล่าสุดของ iPadOS
