Ultimaker เปิดตัวซอฟต์แวร์ Ultimaker Cura 5.0 บรรลุความสำเร็จครั้งใหม่ในการพิมพ์ 3D


อัลทิเมกเกอร์ (Ultimaker) ผู้นำระดับโลกที่เชี่ยวชาญด้านการพิมพ์ 3 มิติระดับมืออาชีพ ได้เปิดตัวซอฟต์แวร์ Ultimaker Cura 5.0 เวอร์ชันเบต้า ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุดของซอฟต์แวร์สำหรับแบ่งชั้นวัตถุ (Slicing Software) ที่เปิดให้ใช้งานฟรี ในระหว่างงานจัดแสดงสินค้าประจำฤดูใบไม้ผลิ (Spring Showcase) ของบริษัท โดยโปรแกรมแบ่งชั้นวัตถุที่ได้รับการปรับปรุงนี้สามารถนำไปใช้งานได้อย่างหลากหลาย ทั้งงานออกแบบ สถาปัตยกรรม วิศวกรรม และการพิมพ์ 3 มิติสำหรับวัสดุโลหะ ทำให้งานพิมพ์ 3 มิติออกมาละเอียดขึ้นและรวดเร็วขึ้น โปรแกรมเวอร์ชันล่าสุดมาพร้อมความกว้างของเส้นแบบผันแปร (Variable Line Width) ส่งผลให้สามารถพิมพ์ผนัง (Wall) ที่มีความบางและพิมพ์รายละเอียดได้ดี นอกจากนี้ ชิ้นงานที่พิมพ์ด้วยโปรแกรมนี้จะแข็งแรงขึ้นด้วย ส่วนคุณสมบัติเด่นอื่น ๆ ประกอบด้วยการเลือกโปรไฟล์การพิมพ์ (Print Profiles) ได้เร็วขึ้นสำหรับผู้ใช้เครื่องพิมพ์ของอัลทิเมกเกอร์ การรองรับชิป Apple M1 และอีกมากมาย


"Ultimaker Cura 5.0 คือก้าวกระโดดครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในด้านคุณภาพการพิมพ์ของซอฟต์แวร์ตัวนี้ และเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติอย่างแท้จริง" คุณมิเกล คาลโว (Miguel Calvo) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของอัลทิเมกเกอร์ กล่าว "เราเชื่อว่าแม้แต่คนที่เคยมองว่าการพิมพ์ 3 มิติยังไม่พร้อมสำหรับการใช้งานก็ยังต้องหันกลับมามองใหม่ในวันนี้ แต่ก่อนคุณต้องออกแบบชึ้นงานให้เข้ากับการพิมพ์ 3 มิติ แต่ตอนนี้การพิมพ์ 3 มิติจะปรับตัวให้เข้ากับชิ้นงานของคุณเอง"


Ultimaker Cura 5.0 มาพร้อมความสามารถที่โดดเด่นขึ้นดังนี้


พิมพ์ผนังได้บางกว่าเดิมและรายละเอียดเพิ่มมากขึ้น

โปรแกรมแบ่งชั้นวัตถุใหม่ในซอฟต์แวร์ Ultimaker Cura 5.0 สามารถใช้ความกว้างของเส้นแบบผันแปร ในขณะแบ่งชั้นวัตถุ 3 มิติ เพื่อรายละเอียดของชิ้นงานที่แม่นยำที่สุด



ชิ้นงานมีความแข็งแรงขึ้น

ความกว้างของเส้นแบบผันแปรส่งผลให้มีช่องว่างน้อยลงภายในชิ้นงานที่พิมพ์ ทำให้ชิ้นงานแข็งกว่าเดิม จึงมีความแข็งแรงทนทานมากขึ้น นอกจากนี้ ความสามารถที่เพิ่มขึ้นในการพิมพ์ผนังที่มีความบางยังทำให้ชิ้นงานที่พิมพ์ด้วยซอฟต์แวร์ Ultimaker Cura 5.0 มีความแข็งแรงใกล้เคียงกับชิ้นงานที่เกิดจากการฉีดขึ้นรูป


"ซอฟต์แวร์ Cura มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีอิสระเพิ่มขึ้นมากมายในการออกแบบชิ้นงานเพื่อการพิมพ์ 3 มิติด้วยเทคโนโลยี FFF ดังนั้นจึงมีข้อจำกัดน้อยลง โดยผนังที่มีความบางหรือชิ้นงานเล็ก ๆ ที่ปกติต้องใช้วิธีการฉีดขึ้นรูปนั้น สามารถสร้างขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้ผลิตชิ้นงานด้วยการพิมพ์ 3 มิติได้ดีขึ้น" คุณสตีฟ ค็อกซ์ (Steve Cox) วิศวกรและผู้เชี่ยวชาญด้านการพิมพ์ 3 มิติ กล่าว


เลือกโปรไฟล์การพิมพ์ได้เร็วขึ้น

โปรไฟล์การพิมพ์รูปแบบต่าง ๆ สำหรับผู้ใช้เครื่องพิมพ์ของอัลทิเมกเกอร์ ได้รับการอัปเดตให้ใช้ความสามารถที่เพิ่มขึ้นของ Ultimaker Cura 5.0 อย่างเต็มที่ ส่งผลให้เวลาในการพิมพ์ชิ้นงานลดลงถึง 20%



ความเป็นไปได้ใหม่ ๆ และการใช้งานใหม่ ๆ

งานจัดแสดงสินค้าครั้งนี้รวบรวมนักนวัตกรรมและผู้นำทางความคิดจากแวดวงการพิมพ์ 3 มิติ ให้มาร่วมสาธิตการใช้งานซอฟต์แวร์ Ultimaker Cura 5.0 เวอร์ชันใหม่ล่าสุด โดยผู้ที่พลาดชมการนำเสนอแบบสด ๆ สามารถดูย้อนหลังได้ที่ https://www.youtube.com/c/Ultimaker 

ใหม่กว่า เก่ากว่า