HUAWEI เผยรายงานประจำปี พ.ศ. 2564 ด้วยแผนดำเนินงานมั่นคง พร้อมต่อยอดการลงทุนในอนาคต

 

หัวเว่ยเผยรายงานประจำปี พ.ศ. 2564 ด้วยแผนการดำเนินงานที่มั่นคงตลอดปีที่ผ่านมา โดยระบุว่าหัวเว่ยประสบความสำเร็จด้วยรายได้ที่ 636.8 พันล้านหยวนในปี พ.ศ. 2564 มีผลกำไรสุทธิ 113.7 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 75.9% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา การลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาของบริษัทสูงถึง 142.7 พันล้านหยวนในปีพ.ศ. 2564 คิดเป็น 22.4% ของรายรับทั้งหมด ส่งผลให้รายจ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาตลอด 10 ปีที่ผ่านมารวมมากกว่า 845 พันล้านหยวน ในอนาคต บริษัทยังวางแผนที่จะเพิ่มการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง



นายกัว ผิง ประธานกรรมการบริหารหมุนเวียนตามวาระของหัวเว่ย ณ งานแถลงข่าว

นายกัว ผิง ประธานกรรมการบริหารหมุนเวียนตามวาระของหัวเว่ย กล่าวในงานแถลงข่าวว่า "โดยภาพรวมแล้ว ผลการดำเนินงานของเราเป็นไปตามที่คาดการณ์ ธุรกิจการให้บริการด้านเครือข่ายของเรายังคงมีเสถียรภาพ ในขณะที่ธุรกิจสำหรับองค์กรเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคง ธุรกิจสำหรับผู้บริโภคของเราได้ขยายไปสู่โดเมนใหม่และยังเริ่มการพัฒนาอีโคซิสเต็มด้านดิจิทัลอย่างรวดเร็วอีกด้วย"

 


นางเมิ่ง หว่านโจว ประธานกรรมการเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินของหัวเว่ย ณ งานแถลงข่าว

ด้านนางเมิ่ง หว่านโจว ประธานกรรมการเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินของหัวเว่ย เปิดเผยว่า "แม้ว่ารายได้ในปี พ.ศ. 2564 จะลดลง แต่เราสามารถทำกำไรและสร้างกระแสเงินสดเพิ่มขึ้น มีศักยภาพในการบริหารธุรกิจมากขึ้นท่ามกลางความผันผวนต่างๆ" ด้วยศักยภาพในการทำกำไรเพิ่มขึ้นจากธุรกิจหลัก ในปี พ.ศ. 2564 กระแสเงินสดของบริษัทจากการดำเนินงานจึงเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คิดเป็นมูลค่ารวม 59.7 พันล้านหยวน ในขณะเดียวกัน อัตราส่วนหนี้สินลดลงเหลือเพียง 57.8% โครงสร้างทางการเงินโดยรวมจึงมีความยืดหยุ่นมากขึ้น


ในปี พ.ศ. 2564 ธุรกิจการให้บริการด้านเครือข่ายของหัวเว่ยสร้างรายได้ทั้งหมด 281.5 พันล้านหยวน ส่งผลให้ผู้ให้บริการเครือข่ายทั่วโลกใช้งานเครือข่าย 5G มากขึ้น ผลวิจัยจากองค์กรอิสระเปิดเผยว่าเครือข่าย 5G ที่พัฒนาโดยหัวเว่ยสำหรับลูกค้าใน 13 ประเทศ รวมถึงสวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี ฟินแลนด์ เนเธอร์แลนด์ เกาหลีใต้ และซาอุดิอาระเบีย สามารถมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ใช้งาน นอกจากนี้ หัวเว่ยยังทำงานร่วมกับผู้ให้บริการและพันธมิตรโดยลงนามในสัญญาเชิงพาณิชย์มากกว่า 3,000 ฉบับสำหรับการใช้เทคโนโลยี 5G ในภาคอุตสาหกรรม และมีการใช้งานเทคโนโลยี 5G ในกิจการเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ทั้งอุตสาหกรรมการผลิต เหมืองแร่ โรงงานผลิตเหล็กและเหล็กกล้า ธุรกิจท่าเรือและโรงพยาบาล


ด้วยกระแสการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจสำหรับองค์กรของหัวเว่ยเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยสร้างรายได้ 102.4 พันล้านหยวนในปี พ.ศ. 2564 โดยในปีที่ผ่านมา หัวเว่ยยังได้เปิดตัว 11 โซลูชันที่ใช้เพื่อประเมินสถานการณ์ต่าง ๆ (scenario-based solutions) สำหรับภาครัฐ การขนส่ง การเงิน พลังงาน และการผลิต บริษัทได้จัดตั้งทีมเฉพาะทางหลายทีม ทั้งทีมด้านเหมืองถ่านหิน ทีมด้านถนนอัจฉริยะ และทีมด้านศุลกากรและท่าเรือ เพื่อรวมทรัพยากรมาตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ เมืองใหญ่กว่า 700 เมืองและบริษัทจาก Fortune Global 500 จำนวน 267 แห่งเลือกหัวเว่ยเป็นพันธมิตรหลักในการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล ปัจจุบันหัวเว่ยทำงานร่วมกับพันธมิตรผู้ให้บริการและผู้ปฏิบัติงานมากกว่า 6,000 รายทั่วโลก


ธุรกิจสำหรับผู้บริโภคของหัวเว่ยมุ่งเน้นที่ความต้องการของผู้บริโภค โดยสร้างอีโคซิสเต็มทั่วโลกเพื่อต่อยอดสังคมอัจฉริยะที่เชื่อมต่อกันทั้งหมด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ชีวิตไร้รอยต่อด้วย AI (Seamless AI Life) ของบริษัท ธุรกิจนี้สร้างรายได้กว่า 243.4 พันล้านหยวนในปี พ.ศ. 2564 และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องด้านการพัฒนาอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ หน้าจออัจฉริยะ หูฟังสเตอริโอไร้สาย (TWS) และ Huawei Mobile Services (HMS) โดยกลุ่มอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะและหน้าจออัจฉริยะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยรวมแล้วระบบปฏิบัติการ HarmonyOS ได้รับการติดตั้งในอุปกรณ์หัวเว่ยกว่า 220 ล้านเครื่องในปีพ.ศ. 2564 และกลายเป็นระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์พกพาที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก


ในช่วงปีที่ผ่านมา หัวเว่ย มุ่งสร้างอีโคซิสเต็ม openEuler, MindSpore และ HarmonyOS โดยอิงตามหลักการทำงานร่วมกันและเติบโตร่วมกัน ปัจจุบัน นักพัฒนาซอฟต์แวร์กว่าแปดล้านคนใช้แพลตฟอร์มแบบเปิด รวมถึงซอฟต์แวร์แบบเปิดกว้างของหัวเว่ยและเครื่องมือในการพัฒนาเพื่อสำรวจความเป็นไปได้ทางธุรกิจและรูปแบบธุรกิจใหม่ ๆ


นายกัว ผิง เน้นย้ำว่า "หัวเว่ยพร้อมก้าวไปข้างหน้าเพื่อมุ่งสู่วิถีดิจิทัล พร้อมปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างชาญฉลาด โดยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไปพร้อมกัน มุ่งเน้นการรวมตัวของผู้เชี่ยวชาญ การค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์และจิตวิญญาณด้านนวัตกรรม เราจะลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับกระบวนทัศน์ด้านทฤษฎีพื้นฐาน รูปแบบสถาปัตยกรรมและซอฟต์แวร์ เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในระยะยาว"


นายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าทางธุรกิจและกลยุทธ์ต่างๆ สำหรับประเทศไทย โดยเน้นย้ำว่าหัวเว่ยมีความมุ่งมั่นและมีศักยภาพที่จะให้บริการลูกค้าไทยและสังคมไทยอย่างต่อเนื่องบนเส้นทางการไปสู่ดิจิทัล ทั้งนี้เขาได้กล่าวว่า “ประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญของหัวเว่ยเสมอมาและยังเป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเรา โดยในช่วง 23 ปีที่ผ่านมา หัวเว่ยได้ดำเนินภารกิจ “เติบโตไปพร้อมกับประเทศไทยและร่วมสนับสนุนประเทศไทย” ผ่านการสนับสนุนรัฐบาลไทย ลูกค้าไทย และบรรดาพาร์ทเนอร์ในไทย ด้วยการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและเป็นพาร์ทเนอร์ด้านไอซีทีที่ได้รับความไว้วางใจ เป็นผู้มุ่งผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล และยังเป็นผู้ให้การสนับสนุนคุณค่าทางสังคมอย่างต่อเนื่อง หัวเว่ยมีความภาคภูมิใจที่ได้ช่วยประเทศไทยสร้างสถานี 5G ไปแล้วกว่า 20,000 แห่ง ในฐานะผู้ให้บริการ 5G อันดับหนึ่ง และหัวเว่ยคลาวด์ยังเป็นผู้ให้บริการระดับโลกเพียงรายเดียวในไทยที่มีศูนย์ข้อมูลอยู่ในประเทศไทยถึง 3 จุด โดยตั้งแต่หัวเว่ยได้ก่อตั้งส่วนธุรกิจใหม่อย่างดิจิทัลพาวเวอร์ในปี พ.ศ. 2564 โซลูชัน PV และไซต์พลังงานอัจฉริยะของหัวเว่ยได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดอย่างรวดเร็ว”


สำหรับประเด็นด้านแผนการลงทุนในประเทศไทยของหัวเว่ยในอนาคต นายอาเบลได้กล่าวถึง 4 แนวทางหลักว่า “หัวเว่ยจะมุ่งสนับสนุนการประยุกต์ใช้ 5G เพื่อการเชื่อมต่อที่ครอบคลุมทุกหนแห่ง สร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลที่มีพื้นฐานอยู่บนเทคโนโลยีคลาวด์ เร่งการเปลี่ยนผ่านสู่การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยพลังงานดิจิทัล รวมทั้งมุ่งเสริมสร้างทักษะทางด้านดิจิทัลและอีโคซิสเต็มของนวัตกรรม โดยในปี พ.ศ. 2565 นี้ หัวเว่ยมุ่งมั่นที่จะผลักดันเครือข่าย 5G ให้ครอบคลุมมากกว่า 70% ของจำนวนประชากร เพิ่มอัตราผู้ใช้งาน 5G ของจำนวนประชากรทั้งหมดจาก 10% ให้เป็น 20% ครอบคลุม 16% ของกราฟอัตราการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีซึ่งอิงจากทฤษฎีการต


งบการเงินทั้งหมดในรายงานประจำปี พ.ศ. 2564 ได้รับการตรวจสอบโดย KPMG ซึ่งเป็นสำนักงานบัญชีระดับสากลของ Big Four ท่านสามารถดาวน์โหลดรายงานประจำปี 2564 ได้ที่ https://www.huawei.com/en/annual-report/2021

ใหม่กว่า เก่ากว่า