Apple เปิดตัว iPhone SE ใหม่: สมาร์ทโฟนที่ทรงพลังในดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์

iPhone รุ่นที่เป็นเจ้าของได้ง่ายที่สุด มาพร้อมชิป A15 Bionic, 5G, ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดีขึ้น, ความทนทานที่ได้รับการปรับปรุง และระบบกล้องใหม่ที่มีคุณสมบัติที่ล้ำหน้าอย่าง HDR อัจฉริยะ 4, คุณสมบัติ "สไตล์ภาพถ่าย" และ Deep Fusion

วันนี้ Apple เปิดตัว iPhone SE ซึ่งเป็น iPhone ใหม่ที่ทรงพลังในดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมความสามารถและประสิทธิภาพที่เหนือชั้นในราคาที่ไม่น่าเชื่อ iPhone SE มาในดีไซน์แบบกะทัดรัดและทนทาน ที่จะทำงานร่วมกับ iOS 15 เพื่อมอบประสบการณ์หนึ่งเดียวแบบไร้รอยต่อ iPhone SE ใหม่มาพร้อมการอัปเกรดที่น่าประทับใจ ซึ่งประกอบด้วยประสิทธิภาพของชิป A15 Bionic ที่เป็นขุมพลังให้กับความสามารถสำหรับกล้องสุดล้ำ และมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งกว่าในแทบทุกด้าน เริ่มตั้งแต่การปรับแต่งรูปภาพไปจนถึงตัวเลือกที่ต้องอาศัยการประมวลผลหนักๆ อย่างการเล่นเกมหรือเทคโนโลยีความจริงเสริม iPhone SE มาในสามสีใหม่อันน่าทึ่ง — มิดไนท์ สตาร์ไลท์ และ รุ่น (PRODUCT)RED ทั้งยังรวมไปถึง 5G, ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น และความทนทานที่ได้รับการปรับปรุง iPhone SE จะเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าในวันศุกร์ที่ 18 มีนาคม และจะเริ่มวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 25 มีนาคม
 
“iPhone SE เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างเหลือเชื่อในกลุ่มผู้ใช้ปัจจุบันของเรา และสำหรับลูกค้าใหม่ที่เพิ่งเปลี่ยนมาใช้ iPhone ซึ่งต้องขอบคุณดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ ประสิทธิภาพที่เหนือชั้น และราคาสบายกระเป๋า
ในปีนี้เราได้สร้างสรรค์ iPhone SE ที่ทรงพลังและทนทานที่สุดที่เคยมีมา ทั้งยังมาพร้อมระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดีขึ้น ซึ่งต้องขอบคุณชิป A15 Bionic แบบเดียวกับที่ใช้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone 13 ที่ช่วยปลดล็อคคุณสมบัติสำหรับกล้องที่ล้ำหน้าอย่าง HDR อัจฉริยะ 4, คุณสมบัติ "สไตล์ภาพถ่าย" และ Deep Fusion" Kaiann Drance รองประธานฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ iPhone ทั่วโลกของ Apple กล่าว "และด้วย 5G, iPhone SE จะมอบความเร็วในการดาวน์โหลดและอัปโหลดที่สูงขึ้น การสตรีมวิดีโอที่มีคุณภาพสูงยิ่งขึ้น การโต้ตอบภายในแอปที่รวดเร็วทันใจ และอีกมากมาย ซึ่งการส่งมอบเทคโนโลยีเจเนอเรชั่นล่าสุดและประสิทธิภาพในระดับราคานี้ เป็นสิ่งที่มีเพียง Apple เท่านั้นที่สามารถทำได้"

ดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์พร้อมจอภาพขนาด 4.7 นิ้ว
iPhone SE นั้นทั้งทนทานทั้งสวยงาม โดยใช้อะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศและดีไซน์แบบกระจก วันนี้ยังมาพร้อมกระจกที่แข็งแกร่งที่สุดในสมาร์ทโฟนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แบบเดียวกับที่ด้านหลังของ iPhone 13 Pro และ iPhone 13 

iPhone SE ยังได้รับการออกแบบมาเพื่อปกป้องจากของเหลวที่หกใส่ โดยมีความสามารถในการทนน้ำและฝุ่นที่ระดับ IP67 2 iPhone SE มาพร้อมปุ่มโฮมและ Touch ID ที่คุณคุ้นเคย ซึ่งเป็นทางเลือกที่ง่าย เป็นส่วนตัว และปลอดภัย ในการล็อกอินเข้าสู่แอป อนุมัติการซื้อจาก App Store และอีกมากมาย

A15 Bionic: ชิปสมาร์ทโฟนที่เยี่ยมยอด
พลังของ Apple Silicon นำประสิทธิภาพระดับแถวหน้าของอุตสาหกรรม และความสามารถสุดล้ำมาสู่ iPhone ชิป A15 Bionic ที่เร็วสุดขั้ว ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกพร้อมกับ iPhone 13 วันนี้มาอยู่ใน iPhone SE และมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งกว่าในแทบทุกด้าน เริ่มตั้งแต่เปิดแอปไปจนถึงการจัดการกับงานที่ต้องใช้พลังในการประมวลผลระดับสูงได้อย่างง่ายๆ ชิป A15 Bionic อัดแน่นด้วย CPU แบบ 6-core อันทรงพลัง ทั้งยังเป็น CPU ที่เร็วที่สุดในสมาร์ทโฟน มาพร้อมคอร์ประสิทธิภาพสูงจำนวน 2 คอร์ และคอร์ประหยัดพลังงานสูงจำนวน 4 คอร์ ทำให้ iPhone SE เร็วกว่า iPhone 8 สูงสุดถึง 1.8 เท่า และเร็วยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อเทียบกับรุ่นที่เก่ากว่า ส่วน Neural Engine แบบ 16-core ก็ประมวลผลได้ถึง 15.8 ล้านล้านรายการต่อวินาที จึงประมวลผลเพื่อการเรียนรู้ของระบบสำหรับแอปพลิเคชันของบริษัทอื่นได้เร็วยิ่งขึ้น รวมถึงปลดล็อคคุณสมบัติสำหรับ iPhone SE อย่าง "ข้อความในภาพ" ในแอปกล้องที่มาพร้อมกับ iOS 15 และการป้อนตามคำบอกบนอุปกรณ์ ชิป A15 Bionic มอบสัมผัสที่ลื่นไหลในทุกอย่างที่ทำ จึงเหมาะสำหรับการถ่ายภาพ เล่นเกม และประสบการณ์ความจริงเสริม

เพราะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อประสิทธิภาพ ชิป A15 Bionic จะทำงานร่วมกับเคมีของแบตเตอรี่เจเนอเรชั่นล่าสุด และผสานการทำงานเข้ากับ iOS 15 เพื่อมอบระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดีขึ้นบน iPhone SE iPhone SE มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานกว่ารุ่นก่อนหน้า และ iPhone รุ่น 4.7 นิ้วที่เก่ากว่า แม้ว่าจะมีรูปทรงที่กะทัดรัด และมาพร้อมเทคโนโลยีใหม่อย่าง 5G iPhone SE สามารถใช้งานร่วมกับเครื่องชาร์จที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Qi สำหรับการชาร์จแบบไร้สาย ทั้งยังรองรับการชาร์จแบบเร็วอีกด้วย

ประสบการณ์การใช้กล้องใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยชิป A15 Bionic
iPhone SE มาพร้อมระบบกล้องแบบใหม่หมดที่ใช้ขุมพลังจากชิป A15 Bionic และกล้องไวด์ความละเอียด 12 เมกะพิกเซล ที่มีรูรับแสงขนาด ƒ/1.8 ซึ่งมอบความเหนือชั้นในการถ่ายภาพที่ใช้ประโยชน์จากการประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ ที่ประกอบด้วย HDR อัจฉริยะ 4, คุณสมบัติ "สไตล์ภาพถ่าย", Deep Fusion และโหมดภาพถ่ายบุคคล คุณสมบัติ HDR อัจฉริยะ 4 ที่เปิดตัวพร้อม iPhone 13 Pro และ iPhone 13 จะใช้การแบ่งส่วนภาพที่ชาญฉลาดในการปรับแต่งสี คอนทราสต์ และนอยซ์ที่แตกต่างกันระหว่างตัวแบบและฉากหลัง คุณจึงมั่นใจได้ว่าใบหน้าจะมีความสว่างที่พอดีในสภาพแสงที่ท้าทาย และแต่ละบุคคลในรูปภาพจะได้รับการเรนเดอร์โดยแยกจากกัน รวมไปถึงการปรับแต่งสภาพแสงและโทนสีผิวที่ดีที่สุด ซึ่งอาจแตกต่างกันสำหรับแต่ละบุคคลด้วย คุณสมบัติ "สไตล์ภาพถ่าย" ให้ผู้ใช้นำสไตล์การปรับแต่งภาพในแบบของตัวเองมาใช้กับทุกภาพได้โดยที่ยังคงได้ประโยชน์จากการประมวลผลภาพแบบหลายเฟรมของ Apple ส่วนค่าสำเร็จรูปและค่าที่ปรับแต่งไว้เองนั้นก็ใช้งานได้กับตัวแบบและสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ซึ่งต่างจากฟิลเตอร์ตรงที่จะมีการปรับค่าต่างๆ ในแต่ละส่วนของภาพในระดับที่เหมาะสมอย่างชาญฉลาดเพื่อให้องค์ประกอบสำคัญในภาพอย่างโทนสีผิวยังคงดูดีเช่นเดิม Deep Fusion ใช้การเรียนรู้ของระบบขั้นสูงในการประมวลผลภาพไปทีละพิกเซล โดยปรับแต่งรายละเอียด องค์ประกอบ และนอยซ์ในทุกส่วนของรูปภาพ โปรเซสเซอร์รับสัญญาณภาพในชิป A15 Bionic มอบวิดีโอที่ดีขึ้นอย่างมาก และขณะเดียวกันก็มีนอยซ์ลดลง โดยเฉพาะในสภาวะแสงน้อย ทั้งยังมาพร้อมไวท์บาลานซ์ที่ดีขึ้นและโทนสีผิวที่สมจริงอีกด้วย

5G วันนี้มาอยู่ใน iPhone SE
5G ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีไร้สายเจเนอเรชั่นล่าสุด พร้อมการอัปโหลดและดาวน์โหลดที่เร็วขึ้น ความหน่วงต่ำลง และประสบการณ์ที่ดีขึ้นในหลายที่มากขึ้น ตัวอย่างเช่น การพบปะกับครอบครัวผ่านการโทร FaceTime ในคุณภาพสูงขึ้นระดับ HD หรือแม้แต่ในตอนที่ใช้ข้อมูลเซลลูลาร์และไม่ได้ผ่าน Wi-Fi ยิ่งกว่านั้นเมื่อ SharePlay ใน iOS 15 มาอยู่บน 5G แล้ว ก็จะช่วยให้ผู้ใช้แชร์ประสบการณ์ร่วมกันได้อย่างทรงพลัง อย่างการดูภาพยนตร์หรือรายการทีวีแบบ HDR ไปพร้อมๆ กันกับเพื่อนขณะโทร FaceTime และยังมีโหมด "ข้อมูลอัจฉริยะ" ที่จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้อย่างชาญฉลาดโดยการปรับความเร็วของ iPhone มาอยู่ที่ LTE เมื่อไม่จำเป็นต้องใช้ความเร็วระดับ 5G การรองรับ 5G กำลังขยายตัวทั่วโลก โดยจะมีผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มากกว่า 200 ราย ในกว่า 70 ตลาด และภูมิภาคที่สามารถรองรับระบบนี้ภายในสิ้นปี

มาพร้อม iOS 15
iOS 15 ยกระดับประสบการณ์การใช้งาน iPhone ด้วยวิธีการต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ต่อติดกับทุกเรื่อง พร้อมด้วยการอัปเดตอันทรงพลังที่จะช่วยผู้ใช้โฟกัสและสำรวจ รวมถึงคุณสมบัติอันชาญฉลาดที่จะช่วยให้ทำสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้นด้วย iPhone ตอนนี้การโทร FaceTime ก็ให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นด้วยระบบเสียงตามตำแหน่งและโหมดภาพถ่ายบุคคลใหม่ SharePlay มอบวิธีการใหม่สำหรับผู้ใช้ในการแชร์ประสบการณ์ร่วมกันให้ผู้ใช้ขณะพูดคุยกับเพื่อนๆ ด้วย FaceTime และมีโหมดโฟกัสใหม่ที่ช่วยลดสิ่งรบกวนสมาธิ รวมถึงการแจ้งเตือนโฉมใหม่ และคุณสมบัติ "ข้อความในรูปภาพ" ที่ใช้ระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์เพื่อตรวจหาข้อความในรูปภาพและให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ กับข้อความนั้นได้ Apple Maps มาพร้อมวิธีการต่างๆ ในการนำทางและสำรวจโลกด้วยประสบการณ์การขับขี่ในเมืองแบบ 3 มิติ และเส้นทางการเดินในแบบความจริงเสริม ส่วนแอปสภาพอากาศก็ได้รับการออกแบบใหม่โดยมีทั้งแผนที่เต็มหน้าจอและการแสดงข้อมูลสภาพอากาศในแบบกราฟิกมากยิ่งขึ้น ในขณะที่แอปกระเป๋าสตางค์รองรับกุญแจบ้านและใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวของรัฐแล้ว และยังมีการควบคุมด้านความเป็นส่วนตัวใน Siri, เมล และอีกหลายที่ทั่วทั้งระบบเพื่อช่วยปกป้องข้อมูลของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น

iPhone SE กับสิ่งแวดล้อม
เช่นเดียวกับ iPhone 13 Pro และ iPhone 13, iPhone SE นั้นได้รับการออกแบบมาเพื่อลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม iPhone SE ผลิตด้วยวัสดุรีไซเคิล ซึ่งประกอบด้วยแร่โลหะหายากที่ผ่านการรีไซเคิลทั้งหมด 100% ใน Taptic Engine และแม่เหล็กของระบบเสียง ทังสเตนรีไซเคิล 100% ใน Taptic Engine รวมถึงการใช้ดีบุกรีไซเคิล 100% ในบัดกรีของแผงวงจรหลัก ส่วนบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบใหม่นั้นก็เลิกใช้พลาสติกหุ้มชั้นนอกโดยสิ้นเชิง และทำให้ Apple เข้าใกล้เป้าหมายของบริษัทมากยิ่งขึ้น นั่นคือการเลิกใช้พลาสติกในบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดภายในปี 2025 iPhone SE นั้นตรงตามมาตรฐานระดับสูงของ Apple ในด้านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังปลอดสารอันตรายหลายประเภท

วันนี้การดำเนินงานของบริษัท Apple ทั่วโลกมีความเป็นกลางทางคาร์บอน และภายในปี 2030 เราวางแผนที่จะลดผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศให้เป็นศูนย์ในทุกภาคส่วนของธุรกิจ ซึ่งรวมถึงซัพพลายเชนการผลิตและวงจรชีวิตของสินค้าทั้งหมด นั่นหมายความว่าอุปกรณ์ Apple ทุกเครื่องที่จำหน่ายจะมีความเป็นกลางทางคาร์บอน 100% ตั้งแต่การผลิตชิ้นส่วน การประกอบ การขนส่ง การใช้งานของลูกค้า การชาร์จ จนถึงการรีไซเคิลและการคัดแยกวัสดุ


iPhone SE จะวางจำหน่ายในรุ่นความจุ 64GB, 128GB และ 256GB ในสีมิดไนท์ สตาร์ไลท์ และ (PRODUCT)RED ในราคาเริ่มต้นที่ 15,900 บาทลูกค้า จะสามารถสั่งซื้อ iPhone SE ล่วงหน้าได้ตั้งแต่เวลา 9:00 น.​ ตามเวลาในประเทศไทยของวันศุกร์ที่ 18 มีนาคม และจะวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 25 มีนาคม

ใหม่กว่า เก่ากว่า