realme เปิดตัว realme Flagship store แห่งแรกยกระดับประสบการณ์การเลือกซื้ออย่างครบครันและ realme X50 5G พร้อมปลุกพลังความเร็วแห่ง 5G อย่างทรงพลัง


realme แบรนด์สมาร์ทโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก เปิดตัว realme Flagship store ที่มาพร้อมศูนย์บริการในตัวแบบครบวงจร ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์  แสดงถึงความสำเร็จของการเติบโตอย่างรวดเร็วตามสโลแกน “Dare to leap” พร้อมตั้งเป้าขยาย 100 สาขาทั่วประเทศในปีนี้ และเปิดตัว realme X50 5G สมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G ประสิทธิภาพทรงพลัง

ในส่วนของความพิเศษของ realme Flagship store แห่งนี้ มาพร้อมกับความพรีเมี่ยมและคุณภาพทั้งในด้านของวัสดุและการออกแบบตกแต่งภายใน ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น สะท้อนความหรูหราอย่างทันสมัย ด้วยการออกแบบทุกองค์ประกอบอย่างมีเอกลักษณ์ แสดงถึงความใส่ใจและพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่สถานที่ตั้ง การออกแบบและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆที่จะสร้างความประทับใจในทุกครั้งที่เข้าไปใช้บริการอย่างดีที่สุด และยังคงไว้ซึ่งการบริการที่จริงใจ โดยภายใน realme Flagship Store มาพร้อมกับศูนย์บริการที่ถือเป็นศูนย์กลางแห่งแรก ที่จะช่วยยกระดับประสบการณ์สุดพิเศษผู้บริโภค ให้สามารถสัมผัสสมาร์ทโฟนและผลิตภัณฑ์ AIoT ได้ทุกรุ่นอย่างครบครัน  มีรูปแบบการบริการอย่างใส่ใจตั้งแต่แอดมินไปจนถึงช่างซ่อม โดยกระบวนการซ่อมทุกขั้นตอนสามารถให้ลูกค้าตรวจสอบได้อย่างเปิดเผย ทำให้ลูกค้าสามารถวางใจได้   นอกจากนี้ยังมีบริการด้านปัญหาเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนและสินค้าอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ หากลูกค้าพบปัญหาในด้านต่าง ๆ ก็สามารถเข้ารับบริการได้ โดยจะมีทีมเซอร์วิสแก้ปัญหาอย่างใส่ใจ หรือหากพบปัญหาในกรณีพิเศษ ทางเซอร์วิสจะมีส่วนลดค่าใช้จ่าย และมีของสมมนาคุณมอบให้ลูกค้าในทุกกรณีพิเศษ รวมไปจนถึงบริการการซ่อมที่สามารถเปลี่ยนหน้าจอ แบตเตอรี่ ฝาหลัง เมนบอร์ด กล้อง และอะไหล่อื่นๆ โดยเป็นอะไหล่จากโรงงานที่ผลิต สามารถรับประกันคุณภาพหลังจากการซ่อมได้

นอกจากนี้ยังมีความพิเศษกับ Sale Experience ที่จะเปิดประสบการณ์ผู้บริโภค ให้สามารถลองสัมผัสทุกผลิตภัณฑ์จาก realme ได้อย่างครบครัน รวมทั้งในส่วนของบริการที่จะมีโต๊ะสำรองข้อมูล โดยลูกค้าสามารถสำรองข้อมูล รูปภาพ หรือคลิปวีดิโอลงคอมพิวเตอร์ได้ด้วยตนเอง มีบริการเครื่องปริ๊นท์รูปให้ลูกค้า ในระหว่างที่ลูกค้าส่งซ่อม สามารถปริ๊นท์รูปของลูกค้าได้ฟรี พร้อมทั้งมีกล่องทำความสะอาดตัวเครื่อง ก่อนส่งซ่อมหรือหลังจากที่ส่งซ่อมเสร็จ ลูกค้าสามารถดำเนินการทำความสะอาดตัวเครื่องได้ด้วยตนเอง บริเวณโซฟาต้อนรับมีที่ชาร์จแบตเตอรี่ เพื่อให้ลูกค้าสามารถชาร์จสมาร์ทโฟนได้ตลอดเวลาและยังมีตู้กดน้ำ มีบริการน้ำร้อน เย็น และสามารถชงเครื่องดื่มทานได้ระหว่างเข้าใช้บริการ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การใช้งานและการเข้ารับบริการจาก realme อย่างดีที่สุด


realme Flagship store ตั้งอยู่ชั้น โซนเอเทรียม ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งสามารถเดินทางได้สะดวกและนอกจากความสะดวกในด้านการเดินทางแล้ว realme ยังตระหนักถึงความสำคัญด้านสุขอนามัยและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าด้วยมาตรการดูแลความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงานทุกท่าน โดยภายใน realme Flagship store ได้มีการทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อมาตรฐานในทุกจุดสัมผัสอย่างสม่ำเสมอ พนักงานทุกคนภายในช็อปจะสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา พร้อมเจลแอลกอฮอล์บริการในหลายจุด เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าใช้บริการ



คุณชัยรัตน์ เศารยะโศภิต รองประธานกรรมการ ฝ่ายธุรกิจลูกค้า เรียลมีประเทศไทย กล่าวว่า “ การเปิด realme Flagship store ครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของความสำเร็จ โดยศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ถือเป็นสาขาที่อยู่ใจกลางเมืองและเป็นย่านเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย ที่เดินทางสะดวก นอกจากนี้เรายังมีศูนย์ให้บริการเพื่ออำนวยความสะดวกกับลูกค้าทุกท่านแบบครบวงจร และเราตั้งเป้าว่าจะมี 100 สาขา ภายในปีนี้ เพื่อยืนยันถึงความสำเร็จของการเติบโตเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่แถวหน้าที่ลูกค้าไว้วางใจ”


นอกจากนี้  realme จัดเซอร์ไพรส์สุดพิเศษในงาน ด้วยการเปิดตัว realme X50 5G ‘บุกเบิกพลังแห่ง 5G’  สมาร์ทโฟนรองรับ 5G อีกตัวของ realme ที่มาพร้อมชิปเซ็ตทรงพลัง Snapdragon 765G 5G หน้าจอขนาด 6.57 นิ้ว อัตรา Refresh Rate 120Hz และ ระบบชาร์จเร็ว 30W Dart Charge สามารถชาร์จเต็ม 100% ในเวลาเพียง 55 นาที

สมาร์ทโฟนรองรับ 5G  ประสิทธิภาพทรงพลังตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

realme X50 5G มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 765G ใช้กระบวนการผลิต EUV ขนาด 7nm ความเร็วสูง 2.4GHz ช่วยลดการใช้พลังงานโดยรวมลงถึง 35% และประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น 10% รองรับฟีเจอร์ Smart 5G ที่สามารถสลับการเชื่อมต่อระหว่าง 4และ 5โดยอัตโนมัติ พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Dual Wi-Fi ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อกับ Wi-Fi สองเครือข่ายในเวลาเดียวกันได้ เพื่อการเชื่อมต่อที่มีเสถียรภาพมากขึ้นและเชื่อมต่อ Dual Channel (Data และ Wi-Fi) สลับการเชื่อมต่อระหว่างอินเทอร์เน็ตบนมือถือและ Wi-Fi โดยอัตโนมัติเพื่อการเชื่อมต่ออย่างเสถียร

 

หน้าจอลื่นไหลอัตรา Refresh Rate 120Hz

ด้วยหน้าจอขนาด 6.57 นิ้ว อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 90.4%  ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการมองเห็นได้อย่างจุใจ พร้อมหน้าจอแสดงผลอัตรา Refresh Rate 120 Hz ลื่นไหลมากขึ้นถึง 100% เมื่อเทียบกับอัตรา Refresh Rate 60 Hz  สามารถปรับความสว่างได้สูงสุด 480nits โหมดสีหน้าจอได้ โหมด ได้แก่ Vivid mode และ Gentle mode และรองรับฟีเจอร์ OSIE สำหรับปรับสีสันของหน้าจอให้มีความสดใสและช่วยเพิ่มความคมชัดของภาพ

กล้องหลัง AI 4 เลนส์ กล้องหน้าคู่แบบเจาะรู

กล้องหลังมาพร้อมเสนส์ AI 4 ตัว ประกอบด้วย เลนส์กล้องหลัก ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล, เลนส์ Ultra wide-angle 119 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และเลนส์ Portrait พร้อมฟิลเตอร์ ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมโหมด Nightscape 3.0 ถ่ายภาพกลางคืนได้สวยคมชัดกว่าที่เคย

แบตเตอรี่ความจุ 4,200 mAh และดีไซน์แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ

realme X50 ,พร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4,200 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 30W Dart Charge สามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ในเวลาเพียง 55 นาที แม้ในขณะที่เล่นเกมหนักหน่วงสามารถชาร์จได้เกือบ 70% ในเวลาพียง 30 นาที และระบบป้องกันความปลอดภัยถึง 5 ชั้น และรับรองความปลอดภัยในการชาร์จตั้งแต่หัวชาร์จ สายชาร์จ และตัวสมาร์ทโฟน มาพร้อม ได้แก่ สี Jungle Green และ สี Ice Silver ดีไซน์ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติจากป่าและน้ำแข็ง พร้อมฝาหลังวัสดุกระจกโค้งมนแบบ 3 มิติ สะท้อนสีสวยงามเปล่งประกาย


realme X50 5G วางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ สิงหาคม ในราคาเพียง 12,990 บาท พร้อมรับของแถมเครื่องทำความชื้น และบัตร VIP Card ประกันหน้าจอแตก ปี มูลค่า 5,990 บาท ผ่านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศไม่ว่าจะเป็น realme Brand Shop, Banana, BKK, KingKongPhone, TG FONE, Jaymart, IT City และ CSC


สำหรับลูกค้า AIS TruemoveH และ dtac เป็นเจ้าของ realme X50 5G ในราคาเริ่มต้นเพียง 7,990 บาท พร้อมของแถมเครื่องทำความชื้น และ VIP Card ประกันหน้าจอแตก ปี มูลค่ารวม 5,990 บาท


สำหรับช่องทางออนไลน์ วางจำหน่ายในวันที่ สิงหาคม ในราคาเพียง 12,990 บาท พร้อมของแถมมูลค่ารวม 5,999 บาท ที่ realme Official Store ในช่องทาง Lazada  รับเพิ่ม Logitech K380 Multi-Device Bluetooth Keyboard สีขาว มูลค่า 1,290 และผ่านช่องทาง Shopee รับเพิ่ม 300 coins เมื่อ pre-order ในวันที่ 22-31 กรกรฎาคม และในช่องทาง Thisshop

ช่องทางการจำหน่าย

Lazada: https://bit.ly/X50LZDTH

Shopee:  https://bit.ly/X50SHPTH

ใหม่กว่า เก่ากว่า