รู้จัก Mediatek Helio G85 ว่าที่ SoC ตัวแรงราคาประหยัด หรือเรียกแบบเข้าใจง่ายคือ Helio G80 v.overclock

เมื่อคืนนี้ Xiaomi ได้มีการเปิดตัว Redmi Note 9 ที่มาพร้อม SoC ใหม่จากทาง Mediatek ในรุ่น Helio G85 ที่หลายคนอาจมีสงสัยว่า แล้วเจ้า Helio G85 นั้นมีความแตกต่างยังไงกับ Helio G80 ที่ถูกนำไปใช้บนสมาร์ทโฟนค่ายเพื่อนบ้านกันละ ? วันนี้ผมจึงจะพาทุกคนมาทำความรู้จัก Mediatek Helio G85 กันครับว่ามีอะไรที่แตกต่างกับ Helio G80

[สำหรับใครที่ต้องการทราบข้อมูลของ Helio G80 สามารถอ่านได้ที่ลิ๊งค์ด้านข้างนี้เลย Mediatek เปิดตัว MTK Helio G80 สุดยอด SoC เกมมิ่งสำหรับสมาร์ทโฟนราคาประหยัด. ]


โครงสร้างพื้นฐานของ CPU ใน Helio G85 นั้นยังคงใช้รูปแบบและความเร็วใน Helio G80 และรวมไปถึงโมเด็มต่างๆภายใน SoC เองก็ยังคงใช้โมเด็มชุดเดียวกันทั้งหมดนั่นหมายความว่า Helio G85 รองรับหน้าจอสูงสุดที่ Full HD อัตราส่วน 21:9 และเนื้อที่ภายในแบบ eMMC 5.1 พร้อมโมเด็ม LTE และ Wifi 5, Bluetooth 5 ชุดเดียวกันทั้งหมด รวมไปถึงเทคโนโลยีต่างๆที่มีอยู่ใน Helio G80 ไม่ว่าจะเป็น low power Sensor Hub, VoW, NeuroPilot,CorePilot, PumpExpress ต่างใช้งานเหมือนกันทั้งหมด. 


Helio G85 ที่อัพเกรดขึ้นมาจาก Helio G80 นั้นมีเพียงแค่เรื่องของ GPU ที่ถูกเพิ่มความเร็วจาก 950 MHz ใน Helio G80 เป็น 1,000 MHz ใน Helio G85 ซึ่งความเร็วที่เพิ่มเข้ามาบน GPU ตัวเดิม Arm Mali G52 MC2 เพียงแค่ 50 MHz นั้นอาจเรียกได้ว่าแทบจะไม่เห็นความแตกต่างกันเลยทีเดียว ยกเว้นเพียงแค่ชื่อของตัว SoC ที่เปลี่ยนจากเลข 0 เป็น 5 ที่คาดว่าน่าจะมาจากการเพิ่มความเร็ว GPU เพียง 50 MHz นี่แหละ นอกนั้นคือเหมือนเดิมทุกอย่าง ในการใช้งานทั่วไปอาจจะแทบไม่เห็นความแตกต่างกันเลยด้วยซ้ำไป.

MediaTek Helio G85

สำหรับคะแนน Antutu Benchmark ของ Helio G85 ผ่านงานเปิดตัวของ Xiaomi Redmi Note 9 Series จะเห็นว่า ประสิทธภิภาพนั้นสูงกว่า Snapdragon 665 ที่ถูกใช้บน Redmi Note 8 อย่างเห็นได้ชัดเจน ซึ่งก็เหมาะสมกับผู้ที่ใช้ Redmi Note และต้องการอัพเกรดมาเป็นตัวใหม่ที่มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น. สำหรับใครที่มองหาสมาร์ทโฟนราคาประหยัดและได้ประสิทธิภาพที่เทียบเคียงกันแล้ว สมาร์ทโฟนที่เลือกใช้งานเป็น Helio G80 น่าจะยังคงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าคุ้มราคาอยู่เช่นกัน. 

ที่มา GizmoChina


ใหม่กว่า เก่ากว่า